English
Chinese
Japanese

ปลวกโอดอนโตเทอร์เมส (Odontotermes) คืออะไร? สวนเห็ด–จอมปลวก–สัญญาณเตือน และแผน IPM ป้องกันความเสียหาย

ปลวกโอดอนโตเทอร์เมส (Odontotermes spp.) — รู้ทัน “ปลวกเพาะเห็ด” ผู้สร้างจอมปลวก และแผน IPM ป้องกันความเสียหายต่ออาคารไม้

สรุปสั้น: ปลวกโอดอนโตเทอร์เมสเป็น ปลวกเพาะเลี้ยงเชื้อรา (fungus-growing termite) สร้างจอมปลวกบนดิน พบมากในเขตร้อนของเอเชีย–แอฟริกา รวมถึงไทย (หลายภาค) ทำลายไม้โดย เคลือบดินเป็นแผ่นบาง แล้วกัดกินขวางเสี้ยนไม้ สร้างความเสียหายทั้งอาคารบ้านเรือนและงานไม้กลางแจ้ง บทความนี้สรุป Quick ID, วงจรชีวิต, สัญญาณเตือน, ความเสียหาย และ แผน IPM ใช้ได้จริง สำหรับโรงงาน/คลัง/บ้านพักอาศัย

Quick ID: ดูยังไงให้รู้ว่าเป็น Odontotermes

  • หนวด: แบบลูกปัด (moniliform)
  • ปีก: บางใส (membrane) ในวรรณะสืบพันธุ์
  • ปาก: กัดกิน (chewing)
  • ขา: ขาเดิน (walking leg)
  • ลักษณะทั่วไป: ยาวราว ~3 มม. หัวใหญ่สีน้ำตาลเข้ม กราม (mandible) ใหญ่ ลำตัวเหลืองน้ำตาล มีขนละเอียด
  • พฤติกรรมสร้างรัง: สร้าง จอมปลวก (mound) บนพื้นดิน ขนาดกลาง–ใหญ่
  • สวนเห็ด (Fungus garden): เพาะเชื้อราไว้กินในรัง เป็นเอกลักษณ์ของกลุ่ม “ปลวกเพาะเห็ด”

สัญญาณหน้างาน

  • ผิวไม้/เสาไม้ถูก ฉาบดินเป็นแผ่นบาง
  • เนื้อไม้ถูกกัดกิน ตามแนวขวางเสี้ยน เป็นหน้ากว้าง
  • พบ ทางดิน/ปลอกดิน เชื่อมต่อจากพื้นสู่โครงสร้างไม้
  • มี จอมปลวก ใกล้พื้นที่ก่อสร้าง/รั้ว/สนาม

ชีววิทยา & วงจรชีวิต (เข้าใจวงจร = วางแผนควบคุมได้แม่น)

ระยะไข่ (Egg): ชุดแรก 15–30 ฟอง แต่เมื่อระบบสังคมตั้งมั่น อาจออกไข่ครั้งละ ~1,000 ฟอง ระยะฟัก 2–4 สัปดาห์
ตัวอ่อน (Larva/Nymph): สีขาว รูปทรงใกล้ตัวเต็มวัย ยังไม่มีปีก
ตัวเต็มวัย (Adult): อายุขัย ~4 ปี; ราชินี อาจอยู่ได้ ~20 ปีหรือมากกว่า
แหล่งอาหาร: ไม้/เศษไม้/ซากพืช และ เชื้อราที่เพาะเลี้ยง
วรรณะ
  • งาน (Worker): หาอาหาร สร้าง/ซ่อมรัง ป้อนอาหาร
  • ทหาร (Soldier): ปกป้องรัง กรามใหญ่จน กินเองไม่ได้ ต้องพึ่งปลวกงาน
  • สืบพันธุ์ (Alate/King/Queen): ผสมพันธุ์และวางไข่ (ราชาจะผสมกับราชินีตลอดชีวิต)

พื้นที่เสี่ยง & การแพร่กระจาย

  • ภูมิอากาศ: เขตร้อน–กึ่งร้อนของเอเชียและแอฟริกา
  • ในไทย: พบหลายภาค (ยกเว้นบางเขตภาคกลาง) โดยเฉพาะพื้นที่ ชื้น + มีไม้/เศษพืช
  • จุดเสี่ยง: โครงสร้างไม้กลางแจ้ง, รั้ว/ศาลา/ระแนง, โรงเก็บไม้, คลังสินค้าไม้พาเลต, บ้านไม้ใต้ถุน

ความเสียหายที่ต้องรู้ (และมักถูกมองข้าม)

ความแข็งแรงโครงสร้างลดลง – กัดกินขวางเสี้ยนเป็นหน้ากว้าง ทำให้ไม้สูญเสียแรงรับน้ำหนัก
ค่าใช้จ่ายซ่อมสูง – ซ่อมเฉพาะจุดมักไม่จบ ต้องแก้ทั้งระบบ แหล่งชื้น–ดินสัมผัส–ทางดิน
ผลกระทบต่อมาตรฐาน – โรงงาน/โกดังเสี่ยงไม่ผ่าน GMP/HACCP/ISO หากพบปลอกดิน/ฝุ่นไม้/เศษรัง

Checklist สัญญาณเตือนเร็ว

  • เจอ ปลอกดิน บนผนัง/เสา
  • ไม้กลวง เมื่อเคาะแล้ว เสียงโปร่ง
  • คราบดินฉาบบางบริเวณผิวไม้
  • จอมปลวกใกล้ตัวอาคาร/แนวรั้ว

Fungus Garden คืออะไร? (หัวใจของ “ปลวกเพาะเห็ด”)

สวนเห็ด (fungus garden) คือก้อน/แผงวัสดุอินทรีย์บดที่ปลวกงานเคี้ยวและปั้นเป็น “แปลงเพาะ” ให้เชื้อราเจริญ จากนั้นปลวกกินทั้งเส้นใยและวัสดุย่อยสลาย—กระบวนการนี้ทำให้ปลวก ย่อยไม้ได้มีประสิทธิภาพ และขยายอาณาจักรเร็วขึ้น

งานภาคสนาม: หากเปิดรังจะเห็นโครงสร้างคล้ายรังผึ้งสีเข้ม ๆ เป็น “คอมบ์” ของเชื้อรา

IPM Action Plan: ป้องกัน–เฝ้าระวัง–ควบคุม แบบทำตามได้จริง

1) ป้องกัน (Exclusion/Proofing/Housekeeping)

  • ตัดจุดสัมผัสดิน-ไม้: ยกพื้น, เพิ่มฐานคอนกรีต, ใส่แผ่นโลหะ/PCV กันปลวก
  • ลดความชื้น: ซ่อมท่อน้ำ/รอยรั่ว, ระบายอากาศใต้พื้น, ยกของพ้นพื้น ≥15 ซม.
  • คัดเลือกไม้: ใช้ไม้ผ่านการอาบน้ำยาป้องกัน/ไม้ทนทาน, เคลือบผิวกันน้ำ
  • บริหารสต็อก: พาเลตไม้/เศษไม้ ห้ามชิดผนัง/พื้น และจัดหมุนเวียน FIFO
  • ภูมิทัศน์รอบอาคาร: กำจัดตอไม้/เศษกิ่ง, ไม่ให้พุ่มไม้ชิดกำแพง

2) เฝ้าระวัง (Monitoring/Trending/Threshold)

  • ตั้งจุดตรวจ: โครงสร้างไม้, เสา/ระแนง, ห้องใต้ถุน, โกดังไม้, แนวรั้ว
  • ใช้สถานีตรวจ (monitoring stations): รอบอาคารทุก 3–5 เมตรในจุดเสี่ยง
  • บันทึกแนวโน้ม (trend): เส้นทางปลอกดิน, จุดพบใหม่, ความชื้น, ฤดูกาล
  • เกณฑ์การตอบสนอง (threshold): พบปลอกดิน/ฉาบดิน/ไม้โปร่ง = ดำเนินการควบคุมทันที

3) ควบคุม (Control) – เลือกให้เหมาะกับบริบท

  • เหยื่อกำจัดปลวก (Termite baiting): วางสถานีรอบอาคารและในจุดกิจกรรมปลวก ใช้สารออกฤทธิ์ชะลอการเจริญ (IGR) ให้ กระจายถึงรัง เหมาะกับอาคารใช้งานต่อเนื่อง/ต้องการลดสารตกค้างภายใน
  • เคมีแนวคันดิน (Soil treatment/Barrier): อัดสารแนวรอบฐานราก/ทางผ่านใต้พื้น (ใช้โดยผู้เชี่ยวชาญ มีแผนความปลอดภัย/บันทึกปริมาณ)
  • ฉีดอุดจุด (Spot treatment): ระดับเฉพาะจุดในโครงสร้างที่ตรวจพบ แต่ ต้องคู่กับมาตรการป้องกัน ไม่เช่นนั้นกลับมาเร็ว
  • วิธีเชิงกายภาพ: เปลี่ยนไม้เสียหาย, เสริมเหล็ก/คอนกรีต, ซีลรอยต่อ
  • ติดตามผลหลังควบคุม: ตรวจซ้ำ 2–4 สัปดาห์แรก และรายไตรมาส/รายเดือนตามความเสี่ยง

หมายเหตุ: การใช้สารกำจัดแมลงต้องปฏิบัติตามฉลาก/กฎหมายและมาตรฐานความปลอดภัยของสถานประกอบการ (GMP/HACCP/ISO) และควรดำเนินการโดยผู้มีใบอนุญาต

ตารางสรุป “เลือกวิธีไหนดี?”

  • บ้านพักอาศัย/อาคารเรียน → เริ่มจาก เหยื่อรอบอาคาร + ลดความชื้น + ปรับภูมิทัศน์
  • คลังสินค้า/โรงงานMonitoring station + Baiting เป็นหลัก, Spot treatment ในจุดโครงสร้างวิกฤต, ควบคุมสต็อกพาเลต
  • งานไม้กลางแจ้งเคลือบป้องกัน + ยกพื้น + ตัดดินสัมผัส เสริม monitoring ตามฤดูกาลฝน

FAQ: 3 คำถามยอดฮิต ของ ปลวกโอดอนโตเทอร์เมส (Odontotermes spp.) — และคำตอบสั้น ใช้ได้จริง

คำถามที่ 1 ปลวก “กินปูน/ซีเมนต์” ได้จริงไหม?

สั้นๆ: ไม่ได้กินปูนครับ/ค่ะ — ปลวกย่อยได้แค่ “เซลลูโลส” (ไม้ กระดาษ ซากพืช)
สิ่งที่ทำให้ คอนกรีตพัง/ช่องโหว่เพิ่ม คือ

  • ปลวก เจาะ–ขยายรอยแตกเดิม/รอยต่อท่อ แล้ว ฉาบดินเป็นทาง รักษาความชื้น
  • ความชื้นสะสมทำให้ ปูนเสื่อม–เหล็กเป็นสนิม เร็วขึ้น → เกิดโพรง/รอยร้าวมากขึ้น กันยังไงให้ได้ผล: อุดรอยต่อ–รอยแตก, จัดการความชื้น, ยกวัสดุไม้พ้นดิน และเฝ้าดู “ปลอกดิน/คราบดินบางๆ” บนผิวไม้–ผนังเป็นสัญญาณเตือน

คำถามที่ 2 เจอ “จอมปลวก/กองดิน” ติดบ้าน—ทุบทิ้งพอไหม หรือควรทำอะไรเพิ่ม?

ทุบอย่างเดียวไม่จบ เพราะราชินี–รังหลักมักอยู่ลึก/กว้างกว่าเห็น
ทำเป็นขั้น (เจ้าของบ้านทำได้ทันที):

ตัดชื้นรอบฐานอาคาร: ซ่อมรั่ว ระบายน้ำ เปิดช่องลมใต้พื้น
เคลียร์อาหาร–ทางเข้า: ย้ายกองไม้/เศษพืชห่างผนัง ≥1–2 ม., อุดรอยต่อพื้น–ผนัง–ช่องท่อ
ทำลาย “ทางเดิน/คราบดิน” ที่เห็น แล้วถ่ายรูปพิกัดไว้ติดตามผล

ขั้นควบคุมคอลนี (แนะนำมืออาชีพ):

  • ติดตั้ง สถานีเหยื่อ บนเส้นหาอาหารให้สารแพร่กลับรัง (“สวนเห็ด” ในรัง = จุดอ่อนของกลุ่มนี้)
  • ทำ แนวสารใต้ดิน (soil barrier) รอบฐานราก/ทางผ่านใต้พื้นในอาคารเสี่ยง
  • ตรวจซ้ำทุก 2–6 สัปดาห์ช่วงแรก จนกิจกรรมลดลงต่อเนื่อง

คำถามที่ 3 เหยื่อปลวก vs แนวสารใต้ดิน (Soil treatment) แบบไหนเหมาะกับบ้าน/โรงงาน?

เลือกให้ตรงบริบทจะคุมได้คงที่กว่า

เหยื่อปลวก (Baiting)เหมาะเมื่อ: บ้านมีผู้อยู่อาศัยตลอด, พื้นที่ภายในต้องลดสารตกค้าง, ต้องการ “ตัดคอลนี” ที่ต้นเหตุ
  • ข้อดี: กระทบรังทั้งฝูง, เก็บข้อมูลแนวโน้มได้, เหมาะโครงสร้างซับซ้อน
  • ข้อควรเข้าใจ: ต้อง ติดตามเติมเหยื่อ และต้องไม่พ่นสารไล่ใกล้สถานี

แนวสารใต้ดิน (Soil barrier)เหมาะเมื่อ: ต้อง “กันเข้าเร็ว” รอบฐานราก, มีรอยต่อพื้น–ผนังมาก, พื้นที่รอบบ้านทำงานเครื่องได้

  • ข้อดี: กันผ่าน จุดวิกฤตได้ไว, ใช้เป็นเขตป้องกันระยะยาว
  • ข้อควรเข้าใจ: ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญ, มีแผนความปลอดภัย/บันทึกจุดฉีด, ทบทวนเมื่อมีงานขุด–ปรับปรุงพื้นที่

สูตรเลือกเร็ว:

  • บ้านอยู่อาศัย/ออฟฟิศใช้งานต่อเนื่อง → เริ่ม “เหยื่อ” + คุมชื้น + อุดรอยต่อ, เสริมแนวสารเฉพาะจุดผ่านใต้พื้น
  • คลัง/โรงงาน–งานไม้กลางแจ้ง → Monitoring รอบอาคาร + เหยื่อเป็นหลัก, จุดวิกฤต/ฐานราก เสริมแนวสาร, วัดผลเป็นรายไตรมาส

แบบฟอร์มติดต่อกลับ

Visitors: 548,503