ปลวก Macrotermes: จอมปลวก–สวนเห็ด & IPM ป้องกัน–กำจัด
ปลวกมาโครเทอร์เมส Macrotermes gilvus — “ช่างก่อจอมปลวก” เพาะเลี้ยงเชื้อรา กัดกินไม้เป็นแผ่นกว้าง และบุกทำลายกลางแจ้งเก่งเป็นพิเศษ
ศัตรูเงียบที่ไม่ใช่แค่กินไม้ แต่ยัง “สร้างจอมปลวกขนาดใหญ่ + เพาะเลี้ยงเชื้อราในรัง” เพื่อเร่งย่อยอาหาร ผลคือความเสียหายต่อรั้ว ศาลา วงกบ พื้นไม้ และโครงสร้างภายนอกพุ่งเร็ว หากรู้สัญญาณระบาดและวางแผน IPM ให้ถูกจุด จะป้องกันอาคารได้ยั่งยืนกว่าการฉีดสเปรย์เป็นครั้งคราว
Quick Facts (สรุปรู้ทันใน 60 วินาที)
- ชื่อสามัญ: Macrotermes (ปลวกมาโครเทอร์เมส)
- ชื่อวิทยาศาสตร์: Macrotermes gilvus | วงศ์: Termitidae | อันดับ: Blattodea
- สัณฐานเด่น: หนวด ลูกปัด (moniliform), ปีก บางใส (membrane), ปาก กัดกิน (chewing), ขา ขาเดิน (walking leg)
- ขนาดตัวทหาร: ราว ~5 มม. หัวใหญ่สีน้ำตาลเข้มอมส้ม กรามแข็งแรง pronotum กว้างแผ่ มองเป็นแผ่น
- ตัวตน: ปลวกสร้าง จอมปลวก (เนินดิน) ขนาดกลาง–ใหญ่ สูงได้ ถึง ~2 เมตร และเป็น ปลวกเพาะเลี้ยงเชื้อรา (fungus-growing termite) มี “สวนเห็ด (fungus garden)” ในรัง
ลักษณะสัณฐานวิทยา (Morphology Highlights)
- หัวทหารใหญ่ กรามทรงพลัง งับป้องกันรังได้ดี
- อกปล้องแรก (pronotum) แผ่กว้างขอบมน ขาเรียวยาว เคลื่อนที่คล่อง
- สีเด่น: หัวน้ำตาลเข้มอมส้ม อก–ท้องน้ำตาลอ่อน
วงจรชีวิต (แบบไม่สมบูรณ์ – Incomplete Metamorphosis)
ปลวกพัฒนา แบบไม่สมบูรณ์: ไข่ → ตัวอ่อน/นิมฟ์ → ตัวเต็มวัย
ไข่: ชุดแรก ~15–30 ฟอง (อาจถึง ~1,000 ฟอง/ครั้ง), ฟัก 2–4 สัปดาห์ตัวอ่อน/นิมฟ์: สีขาว คล้ายตัวเต็มวัยแต่ยังไม่มีปีก โตทีละลอก
ตัวเต็มวัย: อายุเฉลี่ย ~4 ปี; นางพญา อาจอยู่นาน ~20 ปี
ระบบวรรณะ:
- งาน (worker): หา/เก็บอาหาร สร้าง–ซ่อมรัง ป้อนอาหารทั้งคอลนี
- ทหาร (soldier): หัวใหญ่ กรามโต ป้องกันรัง (กินเองไม่ได้ ต้องให้มดงานป้อน)
- สืบพันธุ์ (ราชา–ราชินี): ผสมพันธุ์ตลอดชีวิต —ในธรรมชาติสกุลนี้ มักพบราชินีหลายตัวในห้องเดียว ได้
แหล่งอาศัย–อาหาร–พฤติกรรมที่ทำให้ “น่ากังวล”
- จอมปลวก (mound-building): เนินดินบนพื้น เห็นชัดในสนาม สวน พื้นที่โล่ง เกษตร
- เพาะเลี้ยงเชื้อราในรัง (fungus garden): ช่วยย่อยเซลลูโลส เร่งการได้พลังงาน ทำให้ หาอาหาร—ขยายคอลนีไว
- อาหาร: เนื้อไม้–เปลือกไม้–เศษซากพืช รวมถึงเชื้อราที่เพาะไว้
- รูปแบบทำลาย: มัก พอกดินเป็นแผ่นบาง เคลือบผิวไม้ แล้วกัด กินจากผิวเข้าไปเป็น “หน้ากว้าง” ตามแนวขวางเสี้ยน ทำให้โครงสร้าง อ่อนแรงเร็ว
- พื้นที่เสี่ยง: งานไม้กลางแจ้ง รั้ว ศาลา วงกบ/บัวนอกอาคาร แปลงเกษตรและกองไม้
- อาณาเขต: พบกว้างในอาเซียน—ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เมียนมาร์ กัมพูชา เวียดนาม ฟิลิปปินส์
- นิสัยป้องกันดุ: พบสกุลอื่นจะเข้าปะทะทันที ปกป้องรังแข็งขัน
สัญญาณเตือนเฉพาะของ Macrotermes
- จอมปลวก/เนินดิน โผล่ใหม่หรือขยายตัวเร็ว
- ดินพอกเป็นแผ่นบาง เคลือบผิวไม้/เสาไม้/รั้ว
- ไม้ผิวเรียบกลายเป็น ผิวกร่อนกว้าง ๆ เคาะแล้ว เสียงโปร่ง
- ขุยไม้ + ดินปน ใต้บัวนอกอาคาร/แนวรั้ว
แผนจัดการแบบ IPM (Integrated Pest Management)
1) ป้องกันก่อนระบาด (Prevention)
- บริหารความชื้นรอบอาคาร: ระบายน้ำดี ไม่มีน้ำขังตามฐานราก/สนาม
- จัดผังสวน: อย่าวาง/กอง ท่อนไม้ ตอไม้ เศษไม้ ชิดผนังหรือฐานอาคาร
- ปกป้องงานไม้กลางแจ้ง: ซีล–ทา/อาบบอเรต (borate) เคลือบผิวก่อนใช้งาน
- เว้นร่อง–ยกพื้นไม้: ไม่ให้สัมผัสดินโดยตรง
2) เมื่อพบร่องรอยหรือจอมปลวก
- Spot treatment: เจาะ–อัดสารลง จอมปลวก/ทางเดิน/ดินพอก ที่ยังแอคทีฟ
- แนวกั้นดิน (soil treatment): ทำแนวสารใต้ดินรอบฐานอาคาร เพื่อตัดเส้นทางคมนาคม
- ระบบเหยื่อปลวก (baiting): ติดตั้งรอบแนวอาคาร/จุดสัญจร ช่วย ลดคอลนีจากต้นเหตุ
- ถอน–เปลี่ยนไม้เสียหายหนัก: แล้ว ซีล–ทาบอเรต ก่อนติดตั้งใหม่
3) เฝ้าระวังซ้ำ (Monitoring)
- ตรวจ ทุก 1–3 เดือน โดยเฉพาะฤดูฝน
- บันทึก พิกัดจอมปลวก–ดินพอก–ไม้เสียงโปร่ง พร้อมภาพเทียบแนวโน้ม
- เคสกระจายหลายจุด/ใกล้โครงสร้างหลัก ให้ผู้เชี่ยวชาญประเมิน บำบัดเชิงระบบ
เช็กลิสต์ 60 วินาที
- ระบายน้ำ/ลดชื้นรอบฐานรากเรียบร้อย
- ไม่มี กองไม้–ตอไม้ ชิดผนัง
- งานไม้กลางแจ้ง ซีล + บอเรต แล้ว
- ติดตั้ง เหยื่อ/แนวกั้นดิน ในโซนเสี่ยง
- นัดตรวจซ้ำ รายไตรมาส
FAQ: 3 คำถามยอดฮิต ของ ปลวกมาโครเทอร์เมส (Macrotermes gilvus)
คำถามที่ 1 เจอ “จอมปลวก” ใกล้บ้าน/รั้ว ควรทุบเลยไหม หรือเลือก “เหยื่อ” vs “แนวกั้นดิน” อะไรดีกว่า?
สรุปเร็ว: อย่าทุบอย่างเดียว—คอลนีมักยังอยู่ใต้ดินและสร้างใหม่ได้ ควรจัดการแบบระบบ:
- แนวกั้นดิน (liquid soil treatment) เหมาะกดดัน “เส้นทางเข้าอาคาร” เร่งด่วน ทำแนวสารรอบฐานอาคารเพื่อตัดคมนาคมใต้ดินของปลวกใต้ดินอย่าง Macrotermes ควบคู่การแก้ชื้นและอุดรอยต่อโครงสร้าง, แนวทางนี้ได้รับการใช้กว้างขวางในงานควบคุมปลวกใต้ดินทั่วโลก
- ระบบเหยื่อ (baiting) เน้น “ลดคอลนีที่ต้นเหตุ” ด้วยสารยับยั้งการลอกคราบ (เช่น คลอร์ฟลูอะซูรอน) มีงานวิจัยภาคสนามยืนยันว่ากำจัด/กดคอลนี M. gilvus ได้ผล และเป็นแนวทางที่ได้รับการยอมรับเพิ่มขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- ทำไมจอมปลวกห้ามทุบอย่างเดียว? Macrotermes เป็นปลวกสร้างจอมและมี “สวนเชื้อรา” ในรังช่วยย่อยอาหาร จอมเป็นแค่ส่วนบนของระบบคอลนีขนาดใหญ่ การทุบจอมอย่างเดียวจึงไม่ยั่งยืน
เลือกอย่างไรให้เหมาะ: ถ้าเสี่ยงอาคาร → เริ่ม “แนวกั้นดิน” + แก้ชื้น; ถ้าจุดระบาดกว้าง/เข้าถึงยาก → เสริม “เหยื่อ” เพื่อลดคอลนีระยะยาว (ทำคู่กันได้ผลดี).
คำถามที่ 2 ทำไม “แมลงเม่าบินหลังฝนเข้าไฟ” บ่อย—ถ้าเจอปีกกองหน้าหน้าต่างต้องทำอะไรใน 24 ชม.?
เหตุผลทางชีววิทยา: ความชื้นหลังฝนกระตุ้นการ “สวอร์ม” (alate flight) ของปลวกเพื่อผสมพันธุ์และตั้งคอลนีใหม่ จึงเห็นบินเข้าไฟช่วงค่ำบ่อยในเขตร้อนชื้น
เช็กลิสต์ 24 ชม. (ทำทันที):
- เก็บตัวอย่าง/ปีกใส่ถุงซิป + ถ่ายรูปพิกัดเวลา (เพื่อยืนยันชนิด/แนวทางเข้า)
- ปิดแหล่งล่อ (หรี่ไฟ/ปิดม่านช่วงค่ำ) และเดินตรวจฐานราก–ผนัง–วงกบ หา “ดินพอก/ท่อดิน” หรือรอยชื้นผิดปกติ
- นัดตรวจเชิงลึกแล้ววางแผน IPM: แก้ชื้น–อุดรอยต่อ–เลือก “เหยื่อ/แนวกั้นดิน” ตามความเสี่ยงพื้นที่.
คำถามที่ 3 งานไม้กลางแจ้ง (รั้ว ศาลา วงกบนอกอาคาร) ป้องกัน Macrotermes อย่างไรให้รอดยาว?
แก่นคิด: กลุ่ม Macrotermes กัดกินเป็น “หน้ากว้าง” จากผิวเข้าไป และชอบพื้นที่ชื้นรอบอาคาร ต้องปิด 3 ด่าน: ความชื้น–ผิวไม้–เส้นทางใต้ดิน
- ลดชื้น–จัดภูมิทัศน์: ระบายน้ำดี ไม่มีน้ำขังรอบฐานราก/สนาม และไม่กองตอไม้/ท่อนไม้ชิดผนัง (ลดจอมใหม่)
- ปกป้องผิวไม้: ซีลทุกด้าน + ใช้ บอเรต กับไม้แห้งในขั้นตอนก่อสร้าง/ซ่อม (บอเรตเป็นมาตรฐานงานไม้ใหม่เพื่อป้องกันปลวกและเชื้อราทำลายเนื้อไม้) โดยเฉพาะส่วนที่จะไม่โดนฝนโดยตรงเพื่อคงประสิทธิภาพสาร.
- กันทางใต้ดิน: ทำ แนวกั้นดิน รอบฐานอาคาร/เสารับน้ำหนัก และติดตามผลร่วมกับ สถานีเหยื่อ บริเวณแนวเดินปลวก (รอบรั้ว/แนวพุ่ม).
เกร็ดรู้ลึก: จอมของ M. gilvus มี “ห้องเชื้อรา (fungus comb)” และโครงสร้างซับซ้อน—การจัดการที่ได้ผลยั่งยืนจึงต้องเป็นแพ็กเกจ IPM (สิ่งแวดล้อม + เคมีอย่างพอเหมาะ + เหยื่อ + ติดตามผล) ไม่ใช่สเปรย์ครั้งคราว.