English
Chinese
Japanese

พิษคาร์บาเมต (Propoxur–Carbaryl–Bendiocarb): อาการ ปฐมพยาบาล และวิธีใช้ให้ปลอดภัย

พิษ “คาร์บาเมต” (Propoxur–Carbaryl–Bendiocarb): อาการเตือน วิธีปฐมพยาบาล และเช็กลิสต์ความปลอดภัย

สารกำจัดแมลงกลุ่ม คาร์บาเมต เช่น โพรพอกเซอร์ (propoxur), คาร์บาริล (carbaryl), เบนไดโอคาร์บ (bendiocarb) ออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ โคลีนเอสเตอเรส กระทบระบบประสาท ทำให้มีอาการตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงรุนแรงได้ บทความนี้สรุปอาการพิษ สคริปต์ช่วยจำเมื่อเกิดเหตุ และวิธีปฐมพยาบาลที่ถูกต้องแบบทีละขั้น



อาการเกิดพิษคาร์บาเมต: รู้เร็ว ช่วยทัน

ระดับไม่รุนแรง

  • อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ตาพร่า
  • เหงื่อ–น้ำลายออกมาก คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย

ระดับปานกลาง

  • เดินไม่ไหว แน่นหน้าอก หายใจลำบาก
  • รูม่านตาหรี่ (miosis) อาการด้านบน “แรงขึ้นชัดเจน”

ระดับรุนแรง

  • หมดสติ รูม่านตาหรี่มาก กล้ามเนื้อกระตุก
  • น้ำมูกไหลมาก หายใจขัด ภาวะโคม่า เสี่ยงเสียชีวิต

สูตรจำง่าย: SLUDGE-M (Salivation น้ำลายมาก, Lacrimation น้ำตาไหล, Urination ปัสสาวะมาก, Defecation ถ่ายมาก, GI cramp ปวดท้อง, Emesis อาเจียน, Miosis รูม่านตาหรี่)

3 ขั้นแรกเมื่อเกิดเหตุ (ทำทันที)

  1. ซักข้อมูล: ใคร–รับสัมผัสอะไร–ปริมาณเท่าไร–เมื่อไร–อย่างไร–อาการปัจจุบัน–ยาที่ใช้/ดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่
  2. เก็บหลักฐาน: ภาชนะ/ฉลาก อุปกรณ์พ่น จุดหก/เปื้อน เครื่องมือชำรุด
  3. ประเมินความปลอดภัยหน้างาน: มีการปนเปื้อนต่อเนื่องหรือไม่—ป้องกันตนเองก่อนช่วยเหลือ

การปฐมพยาบาลตาม “ช่องทางสัมผัส”

1) สัมผัสผิวหนัง/เส้นผม

  • ถอดเสื้อผ้าที่ปนเปื้อน ทันที
  • ล้างด้วยน้ำและสบู่ ปริมาณมาก–นานพอ หลีกเลี่ยงขัดถูแรง
  • ซับให้แห้ง คลุมผ้าสะอาดหลวม ๆ
  • เสื้อผ้าที่เปื้อน ทิ้งแยก/ซักแยก

2) เข้าตา

  • แหกหนังตา ล้างผ่านตาด้วยน้ำสะอาด ต่อเนื่อง 15 นาที
  • ปิดตาด้วยผ้าสะอาด แล้ว ไปพบแพทย์ทันที
  • ห้ามหยอดยา/สารใด ๆ เว้นแพทย์สั่ง

3) สูดดม

  • พาออกสู่ที่อากาศถ่ายเท (หลีกเลี่ยงให้ผู้ป่วยเดินเอง)
  • คลายเสื้อผ้า ดูแลให้อบอุ่น–สงบ
  • มีชัก/หายใจผิดปกติให้ ช่วยหายใจ และโทรฉุกเฉิน 1669

4) เข้าทางปาก

  • ยังไม่กลืน: บ้วนปากด้วยน้ำมาก ๆ แล้วดื่มน้ำ/นมปริมาณมาก
  • กลืนแล้ว: อย่าทำให้อาเจียนเอง เว้นแต่ฉลากระบุชัด
  • ห้ามทำให้อาเจียน หากผู้ป่วยหมดสติ/ชัก, เป็นสารกัดกร่อน (กรด–ด่าง), หรือเป็นผลิตภัณฑ์สูตร EC/OL (เสี่ยงสำลักตัวทำละลายปิโตรเลียมเข้าปอด)
  • นำ ฉลาก/ภาชนะ ไปให้แพทย์ดูทุกครั้ง

เมื่อใดต้องรีบไปโรงพยาบาล

  • มีอาการ หายใจลำบาก แน่นหน้าอก ชีพจรช้า/ผิดจังหวะ
  • รูม่านตาหรี่มาก ร่วมกับเหงื่อ–น้ำลาย–น้ำมูกไหลมาก
  • อาเจียนไม่หยุด เวียนศีรษะจนล้ม/หมดสติ
  • เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ตั้งครรภ์ ผู้มีโรคหัวใจ/หอบหืด—ถึงแม้สัมผัสน้อยก็ตาม

ใช้คาร์บาเมตให้ปลอดภัย: เช็กลิสต์มืออาชีพ

  • อ่านฉลาก–ปฏิบัติตามอัตรา/วิธีใช้ อย่างเคร่งครัด
  • สวม ถุงมือ–หน้ากาก–แว่น–ชุดป้องกัน ทุกครั้งที่ผสม/ฉีดพ่น
  • ผสมในที่อากาศถ่ายเท หลีกเลี่ยงไอระเหย
  • แยกอุปกรณ์–ภาชนะ ห้าม ใช้ปะปนกับอาหาร/เครื่องครัว
  • หลีกเลี่ยงพ่นใกล้เด็ก–สัตว์เลี้ยง–แหล่งน้ำ
  • จัดเก็บในที่ล็อกได้ แห้ง เย็น ห่างอาหารและอาหารสัตว์
  • ผู้ปฏิบัติงานที่สัมผัสบ่อย ตรวจซีรั่มโคลีนเอสเตอเรสอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

สรุปสั้น

คาร์บาเมต (propoxur–carbaryl–bendiocarb) กระทบระบบประสาทผ่านการยับยั้งโคลีนเอสเตอเรส อาการเด่นคือ รูม่านตาหรี่ เหงื่อ–น้ำลายมาก คลื่นไส้–อาเจียน–ท้องเสีย แน่นหน้าอก หายใจลำบาก การช่วยเหลือที่ถูกต้องคือ หยุดสัมผัส–ล้างตามช่องทาง–งดอาเจียนโดยพลการ–พบแพทย์พร้อมฉลาก โดยเร็ว

FAQ : — 3 คำถามยอดฮิต ของ พิษ “คาร์บาเมต” (Propoxur–Carbaryl–Bendiocarb) ที่คนมักค้นหา

คำถามที่ 1 คาร์บาเมตต่างจาก “ออร์กาโนฟอสเฟต” ยังไง—ช่วยแยกหน้างานให้หน่อย?

  • กลไก: ทั้งคู่ยับยั้ง cholinesterase เหมือนกัน แต่ คาร์บาเมตยับยั้งแบบกลับคืนได้เร็วกว่า (reversible) ขณะที่ออร์กาโนฟอสเฟต “จับแน่นและยาว” กว่า
  • อาการ: โปรไฟล์คล้ายกัน (SLUDGE-M) แต่พิษคาร์บาเมต มักสั้นกว่าเมื่อพ้นแหล่งสัมผัส หากได้รับไม่มาก
  • การรักษา: หน้างานใช้ Atropine เป็นหลักเพื่อลดอาการโคลิเนอร์จิก; Oxime (เช่น 2-PAM) บางกรณีของคาร์บาเมตอาจไม่ได้ประโยชน์ชัดเท่าออร์กาโนฟอสเฟต (ขึ้นกับชนิด/ปริมาณ/ระยะเวลา) — ให้แพทย์เป็นผู้พิจารณาเสมอ
  • ความเสี่ยงระยะยาว: คาร์บาเมตโดยทั่วไป เสถียรพอเหมาะ–ตกค้างไม่นาน กว่าออร์กาโนฟอสเฟตหลายตัว แต่ก็ยังเป็นพิษต่อคน–สัตว์ได้ถ้าใช้ผิด

คำถามที่ 2 ต้องตรวจเลือดอะไรยืนยันพิษ? ค่าจะกลับปกติเมื่อไหร่หลังโดนคาร์บาเมต?

การตรวจที่ใช้บ่อย:


  • Serum/Plasma cholinesterase (butyrylcholinesterase) — เปลี่ยนไว เหมาะเฝ้าระวังการสัมผัสล่าสุด
  • RBC acetylcholinesterase — สะท้อนผลต่อระบบประสาทได้ดีกว่า แต่ฟื้นช้ากว่า
ถ้ามี “ค่าเริ่มต้น (baseline)” ของพนักงาน จะเทียบได้แม่นขึ้นกว่าค่ามาตรฐานทั่วไป
หลังหยุดสัมผัสคาร์บาเมต ค่ามักค่อย ๆ ดีขึ้นในช่วงชั่วโมง–ไม่กี่วัน (เร็วกว่าออร์กาโนฟอสเฟต) แต่ระยะเวลาจริงขึ้นกับชนิดสาร ปริมาณ และสุขภาพผู้ป่วย — ให้แพทย์เป็นผู้ติดตามค่าและอนุญาตกลับทำงาน

คำถามที่ 3 สารคาร์บาเมต “หก/รั่วไหล” ในบ้าน/ครัว ต้องจัดการยังไงให้ปลอดภัยที่สุด?

SOP สั้น ๆ ใช้ได้เลย

กันพื้นที่: เอาเด็ก/สัตว์เลี้ยง–คนไม่เกี่ยวข้องออก เปิดหน้าต่างระบายอากาศ ใส่ PPE (ถุงมือไนไตรล์/แมสก์/แว่น)

ดูสูตรก่อน


  • ผงแขวนลอย/ผงเปียก (WP/SC/SP): โรยสารดูดซับ (ทราย/ดิน/สารดูดซับอเนกประสงค์) → กวาดใส่ถุงสองชั้น ปิดปากถุง
  • ของเหลวมีตัวทำละลาย (EC/OL): ใช้แผ่นดูดซับ/ทราย ห้ามฉีดน้ำไล่ทันที เพื่อลดการฟุ้ง/กระจาย → ตักใส่ภาชนะปิดมิดชิด
เช็ดล้างขั้นสุดท้าย: พื้นผิวแข็งให้เช็ดด้วย น้ำสบู่อุ่น แล้วตามด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง (โซนเตรียมอาหารให้เช็ดซ้ำอีกรอบ)
ทิ้งให้ถูกต้อง: ของเสีย/ผ้าเช็ดปนเปื้อน บรรจุ–ติดป้าย แล้วส่งกำจัดตามข้อกำหนดท้องถิ่น (อย่าทิ้งลงท่อสาธารณะ)
เฝ้าระวังอาการ: หากใครมีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ ตาพร่า เหงื่อ/น้ำลายมาก ให้ไปโรงพยาบาล พร้อมฉลากผลิตภัณฑ์ ทันที

แบบฟอร์มติดต่อกลับ

Visitors: 549,113