English
Chinese
Japanese

สารกำจัดหนูออกฤทธิ์ช้า: เลือก–ใช้ให้ถูก ปลอดภัย ได้ผล

คู่มือ “เหยื่อหนูออกฤทธิ์ช้า”: ใช้ให้ถูก หลบให้พ้น ปลอดภัยกว่า

สารกำจัดหนูประเภทออกฤทธิ์ช้า (anticoagulant rodenticides) ทำงานโดยยับยั้งการแข็งตัวของเลือด หนูจะตายหลังได้รับสารสะสมเพียงพอภายใน 3–15 วัน เหมาะกับงานควบคุมในบ้านเรือน/คลังสินค้า เพราะไม่ทำให้หนูระแวงเหยื่อทันที จึงกระจายการกินได้กว้าง


กลุ่มสารที่ใช้บ่อย

  • รุ่นแรก (1st gen.): วอร์ฟาริน (warfarin), คูมาเตตระลิล (coumatetralyl) ต้องกินหลายมื้อ เหมาะกับจุดที่กังวล พิษทุติยภูมิ ต่อสัตว์นักล่าหรือสัตว์เลี้ยง
  • รุ่นสอง (2nd gen.): โบรดิฟาคูม (brodifacoum), โบรมาไดโอโลน (bromadiolone), โฟลคูมาเฟน (flocoumafen), ไดเฟไทอะโลน (difethialone) กินครั้งเดียวก็ถึงตาย (one-feed kill) เหมาะกับการระบาดหนัก แต่ต้องบริหารความเสี่ยงเรื่องพิษทุติยภูมิอย่างเคร่งครัด

เลือกสูตรและอุปกรณ์ให้เหมาะ

  • บล็อกพาราฟิน/ก้อนแข็ง: ทนชื้น เหมาะกับท่อระบายน้ำ/นอกอาคาร
  • เม็ด/ธัญพืช (pellet/grain): กลิ่นหอม กินง่าย เหมาะในอาคารแห้ง
  • เหยื่อเหลว (liquid bait): ใช้เมื่อแหล่งน้ำขาดแคลน
  • สถานีเหยื่อ (bait station): ปลอดภัย กันเด็ก–สัตว์เลี้ยง–น้ำฝน และบังคับทิศทางการกิน

วิธีใช้ให้ได้ผล (และลดดื้อยา)

  1. สำรวจ–ปิดทางเข้า (exclusion) และจัดการสุขาภิบาล: เก็บอาหาร/ขยะให้มิดชิด ตัดวัชพืช กำจัดซอกหลืบ
  2. วางสถานีตามเส้นทางวิ่ง/ขอบผนัง ทุก 5–10 ม. (ภายใน) และ 10–15 ม. (ภายนอก) เพิ่มความถี่ในจุดร้อน
  3. พรีเบต (pre-bait) ด้วยอาหารเดิม 2–3 วัน (กรณีกลุ่ม 1st gen.) ลด “bait shyness”
  4. เสิร์ฟใหม่เสมอ: เติมเหยื่อเมื่อเหลือน้อยกว่า 1/3 ตรวจทุก 2–7 วันช่วงแรก จากนั้นเว้นถี่น้อยลง
  5. หมุนเวียนสาร ระหว่าง 1st gen., 2nd gen. และ เหยื่อไม่ใช่ยาฆ่า (เช่น IGR สำหรับหนูไม่มี) พร้อมใช้กับดักร่วม ลดโอกาสดื้อยา
  6. บันทึกจุด/วันที่/การกิน เพื่อปรับตำแหน่ง–ปริมาณอย่างมีข้อมูล

ความปลอดภัย & กฎหมาย (สำคัญมาก)

  • ใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นทะเบียน อ่านฉลากทุกครั้ง สวมถุงมือ–ห้ามสัมผัสอาหาร/ภาชนะ
  • วางในสถานีเหยื่อแบบล็อกกุญแจ พ้นมือเด็ก–สัตว์เลี้ยง และนอกทางน้ำท่วม
  • ซากหนูต้อง เก็บ–ใส่ถุงปิดสนิท–ทิ้งถูกวิธี ลดพิษทุติยภูมิ
  • หากสัตว์เลี้ยง/คนอาจสัมผัส ให้พิจารณา รุ่นแรก ก่อน และติดป้ายเตือนพื้นที่
  • มี วิตามิน K1 เป็นแอนติแดนต์เฉพาะกลุ่ม anticoagulant (หากสงสัยสัมผัส แจ้งแพทย์ทันที พร้อมนำฉลากผลิตภัณฑ์)

เมื่อไรควรเลือกชนิดใด

  • การระบาดหนัก/รังใหญ่: เริ่มด้วย 2nd gen. ในสถานีเหยื่อแบบปิด ตามด้วยระยะคงสภาพด้วย 1st gen. หรือกับดัก
  • พื้นที่เสี่ยงสัตว์เลี้ยง/สัตว์ป่า: ให้ความสำคัญกับ 1st gen. + กับดักเชิงกล และการป้องกันทางกายภาพ
  • ภายนอกอาคารชื้น: เลือก บล็อกพาราฟิน ผูกลวดในสถานีเหยื่อกันลากหาย

เช็กลิสต์ IPM กำจัดหนูอย่างยั่งยืน

  • อุดรอยรั่ว ช่องท่อ–สายไฟ ประตูติดแผงกันหนู 50–60 ซม.
  • จัดเก็บสินค้า สูงจากพื้น ≥30 ซม. ห่างผนัง 50–100 ซม.
  • ตัดวัชพืชรอบอาคารให้โล่ง ตรวจรอยกัด–มูล–กลิ่น–คราบมันประจำสัปดาห์
  • รวมใช้ เหยื่อ + กับดัก + สุขาภิบาล + ปิดช่อง เสมอ

FAQ : — 3 คำถามยอดฮิต ของ เหยื่อหนูออกฤทธิ์ช้า (anticoagulants) ใช้ให้ได้ผลจริง ปลอดภัยกว่า

คำถามที่ 1 กินเหยื่อแล้ว “กี่วันถึงตาย”? ระหว่างรอต้องทำอะไรบ้างให้ผลไวขึ้น

ปกติใช้เวลา ≈3–15 วัน (เร็ว/ช้าขึ้นกับชนิดสาร ปริมาณที่กิน และแหล่งอาหารคู่แข่ง)

ระหว่างรอให้ทำ 4 ข้อนี้:

  1. ตัดแหล่งอาหารอื่น (เศษอาหาร/ฟีด/ถังขยะไม่ปิด) เพื่อบังคับให้หนูเลือกเหยื่อ
  2. เติมเหยื่อเสมอ เมื่อเหลือน้อยกว่า 1/3; ช่วงแรกตรวจทุก 2–7 วัน
  3. เพิ่มความหนาแน่นสถานี วางถี่ตามแนววิ่ง: ภายใน 5–10 ม. / ภายนอก 10–15 ม.
  4. เก็บซากทันที ใส่ถุงปิดสนิท ลดกลิ่น/แมลงวัน และลดพิษทุติยภูมิ

คำถามที่ 2 เลือก “รุ่นแรก vs รุ่นสอง” ยังไง? ถ้ามีเด็ก/สัตว์เลี้ยงควรกังวลอะไร

รุ่นแรก (warfarin, coumatetralyl): ต้องกินหลายมื้อ → ความเสี่ยงพิษทุติยภูมิต่ำกว่า, เหมาะจุดที่มีสัตว์เลี้ยง/สัตว์ป่าใกล้พื้นที่
รุ่นสอง (brodifacoum, bromadiolone, flocoumafen, difethialone): one-feed kill เหมาะตอนระบาดหนัก แต่ต้อง บริหารความเสี่ยง เรื่องพิษทุติยภูมิอย่างเคร่งครัด

ไม่ว่ารุ่นไหน ให้ทำเสมอ:

  • วาง ในสถานีเหยื่อแบบล็อก (กันเด็ก–สัตว์เลี้ยง–น้ำฝน) และ ผูกลวดบล็อก กันลากหาย
  • ติดป้ายเตือน, บันทึกจุด–วันที่, ตรวจ/เติมตามรอบ
  • เตรียม วิตามิน K1 เป็นแอนติแดนต์สำหรับกลุ่ม anticoagulant (กรณีฉุกเฉิน รีบพบแพทย์ พร้อมฉลากผลิตภัณฑ์)

คำถามที่ 3 “หนูกินเหยื่อแล้วไม่หาย” ผิดพลาดตรงไหน? แก้อย่างไรให้กลับมาตายต่อเนื่อง

สาเหตุฮิต & ทางแก้:

  • อาหารคู่แข่งเยอะ → เก็บ/ปิดอาหารและขยะให้หมด, ทำความสะอาดครัว–โกดังทุกวัน
  • วางห่าง/วางน้อยเกิน → เพิ่มสถานีตามแนวผนัง/คาน/ปากรูให้ถึง ทุก 5–10 ม.
  • เหยื่อไม่สด/ชื้นเสีย → เลือกสูตรให้เหมาะ: บล็อกพาราฟิน สำหรับจุดชื้น/ท่อ, เม็ด/ธัญพืช สำหรับในอาคารแห้ง, เหยื่อเหลว เมื่อน้ำหายาก
  • bait shyness/มีประสบการณ์ไม่ดี → ทำ พรีเบต 2–3 คืน (วางเหยื่อไม่ผสมยา/ไม่ทำงานกับดัก) แล้วค่อยสลับเป็นเหยื่อจริง
  • ดื้อสาร/กินน้อยหมุนเวียนรุ่น/สารออกฤทธิ์ และ ผสมกลยุทธ์ ด้วยกับดักเชิงกล + อุดช่อง (Exclusion)
ท้ายสุด: บันทึกการกินเหยื่อ รายจุด → ปรับตำแหน่ง/สูตร/ความหนาแน่นบนข้อมูลจริง (ไม่เดา)

แบบฟอร์มติดต่อกลับ

Visitors: 549,113