English
Chinese
Japanese

เหาหนังสือ (Booklice) ผู้ลอบทำลายหนังสือและโกดังข้าว | รู้จักลักษณะ วิธีป้องกัน

เหาหนังสือ (Booklice): จอมซ่อนตัว ผู้ลอบกัดกินสมบัติบนชั้นหนังสือ

หลายคนอาจเคยเห็นผงฝุ่นหรือจุดเล็ก ๆ วิ่งหนีอย่างรวดเร็วในห้องสมุด ตู้หนังสือ หรือแม้แต่ในโกดังเมล็ดพืช ตัวการสำคัญก็คือ เหาหนังสือ (Booklice) หรือ Liposcelis spp. แม้จะไม่มีพิษภัยต่อคนโดยตรง แต่ถ้าปล่อยไว้ก็สร้างความเสียหายต่อเอกสาร หนังสือ และเมล็ดพืชได้ไม่น้อย

ทำความรู้จักเหาหนังสือ

  • ชื่อสามัญ: Booklice
  • ชื่อวิทยาศาสตร์:Liposcelis spp.
  • วงศ์: Liposcelidae
  • อันดับ: Psocoptera

ตัวเต็มวัยมีขนาดเล็กเพียง 2 มม. สีเทาอ่อนหรือครีม ลำตัวอ่อนนุ่ม ไม่มีปีก และมีหนวดยาวแบบเส้นด้าย (filiform) ที่ประกอบด้วย 12–50 ปล้อง

ส่วนหัวมีตาประกอบ (compound eyes) ชัดเจน อกมีขนาดเล็กกว่าหัว ขาแบบขาเดิน (walking legs) โดย tarsi มี 2–3 ปล้อง และมีกรงเล็บ (claw) ที่ปลายขา ตัวอ่อนจะมีลำตัวสีใสออกครีม

วงจรชีวิต: ขยายพันธุ์ไวมาก

เหาหนังสือมีการพัฒนาแบบ Incomplete metamorphosis หรือการเปลี่ยนแปลงแบบไม่สมบูรณ์ ตัวอ่อนจะหน้าตาเหมือนตัวเต็มวัย แต่ขนาดเล็กกว่า
ไข่: วางไข่ได้แม้ไม่ผสมพันธุ์ (Parthenogenesis) โดยเฉพาะช่วงอากาศร้อน ตัวเมียวางไข่ได้ถึง 100 ฟอง เฉลี่ย 57 ฟอง ใช้เวลา 7 วันในการฟัก
ตัวอ่อน (nymph): ลอกคราบ 3–4 ครั้ง
ตัวเต็มวัย: ระยะการพัฒนาตั้งแต่ไข่จนโตเต็มวัยใช้เวลาเพียง 24 วัน

เมนูโปรดและวิธีการทำลาย

เหาหนังสือชอบพื้นที่ชื้น อาหารจำพวกแป้ง รำข้าว ฝุ่น กาวติดหนังสือ รวมถึงเมล็ดพืชที่แตกหัก เช่น ข้าวสาร ข้าวโพด ข้าวฟ่าง มันสำปะหลัง เชื้อรา เห็ดหลินจือแห้ง หรือแม้กระทั่งเศษพืชในโกดัง

สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือ พวกมันสามารถ ห้ำกินไข่ผีเสื้อข้าวเปลือก ได้ด้วย

การกระจาย: พบได้ทุกบ้าน ทุกโกดัง

เหาหนังสือแพร่กระจายได้ทั่วโลก โดยเฉพาะในพื้นที่เขตร้อนชื้น จึงพบได้ทั้งในบ้าน ห้องสมุด โรงสี และโรงงานเก็บธัญพืช

วิธีป้องกันและควบคุม

✅ ทำความสะอาดพื้นและซอกมุมต่าง ๆ เป็นประจำ ลดแหล่งอาหารและที่หลบซ่อน
✅ ลดความชื้นในพื้นที่เก็บสินค้าและในบ้าน
✅ ควบคุมอุณหภูมิ ใช้ความร้อนหรือเย็นจัด เพื่อหยุดการเจริญเติบโต
✅ อบแก๊ส (Fumigation) วัตถุดิบก่อนเข้าเก็บ และสินค้าที่รอ Reject เพื่อป้องกันการแพร่พันธุ์
✅ หลีกเลี่ยงการเก็บวัตถุดิบไว้นานเกินไป ลดโอกาสการสะสมแมลง
✅ ใช้กับดักฟีโรโมน (Pheromone trap) เพื่อตรวจสอบการระบาดและควบคุมจำนวนตัวเต็มวัย

สรุป

แม้เหาหนังสือจะไม่กัดคนหรือเป็นพาหะของโรคร้ายแรง แต่ความเสียหายที่เกิดกับหนังสือ เอกสารสำคัญ เมล็ดพืช หรือสมุนไพร อาจร้ายแรงกว่าที่คิด หากไม่ควบคุมตั้งแต่ต้น

การจัดการความชื้น การเก็บรักษาที่เหมาะสม และการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ คือหัวใจสำคัญในการปกป้องหนังสือและสินค้าให้ปลอดภัย

FAQ : 3 คำถามยอดฮิต ของ เหาหนังสือ (Booklice, Liposcelis spp.)

คำถามที่ 1 เหาหนังสือกัดคนไหม อันตรายหรือเป็นพาหะโรคหรือเปล่า?

ไม่กัดคนและไม่เป็นพาหะโรคค่ะ/ครับ แต่เศษซาก–ขี้ไคลของมันอาจกระตุ้นอาการแพ้/คันจมูกในบางคนได้ และการพบเหาหนังสือมักเป็น “สัญญาณเตือน” ว่าพื้นที่ชื้นหรือเริ่มมีเชื้อรา (เช่น ชั้นหนังสือ ห้องเก็บของ ครัว/โกดังธัญพืช) ควรเร่งลดความชื้นและทำความสะอาด

คำถามที่ 2 อยากกำจัดแบบไม่ใช้สารเคมี ทำยังไงให้ได้ผลเร็วที่สุด?

  • หักวงจรความชื้น: ลด RH ให้ ≤50% ด้วยเครื่องลดความชื้น/แอร์ เปิดถ่ายเทอากาศ 24–48 ชม.
  • ฟรีซของที่ติดตัวแมลง (หนังสือ/เอกสาร/กล่องสะสม): ใส่ถุงซิป 2 ชั้น ไล่อากาศ แช่ ≤−18°C นาน 48–72 ชม. แล้วค่อยนำออกมาคลายความเย็นในถุงก่อนเปิด (กันไอน้ำเกาะ)
  • ความร้อนแบบอ่อนโยน: ของที่ทนร้อน (ไม่ใช่ภาพ/กาวบอบบาง) อบ 50–55°C ~30–60 นาที
  • ทำความสะอาดจุดเสี่ยง: ดูดฝุ่นหัวฉีดแคบ (HEPA ยิ่งดี) ตามสันหนังสือ–มุมตู้ ใส่ ซิลิกาเจล/ถ่านดูดชื้นในกล่องเก็บ

ทริกเร็ว: “ลด RH → ฟรีซ/อุ่น → ดูดฝุ่น → ใส่ซองดูดชื้น” ทำต่อเนื่อง 1–2 รอบ มักจบโดยไม่ต้องพ่นยา

คำถามที่ 3 ทำไมเจอทั้งบนชั้นหนังสือ และ ในครัว/กองข้าวสาร? ป้องกันระยะยาวยังไง?

เหาหนังสือชอบ แป้ง–กาว–ฝุ่น–เชื้อรา จึงพบทั้งในห้องหนังสือและพื้นที่เก็บอาหารแห้ง

  • หนังสือ/เอกสาร: เก็บในกล่องปิดมิดชิด ใส่ซิลิกาเจล เป้าหมายความชื้นห้อง RH 45–50% ตรวจเช็กเชื้อราที่ปก–สันและกาวสัน
  • ธัญพืช/สมุนไพร: ทำให้เมล็ดแห้งก่อนเก็บ (MC ข้าว/ธัญพืชโดยทั่วไป ≤12–13%), ใช้ภาชนะทึบอากาศ, ระบบ FIFO/FEFO, ทำความสะอาดเศษเมล็ดบนพื้น/มุมชั้นสต็อกสม่ำเสมอ
  • สัญญาณต้องรีบแก้: กลิ่นอับ ความชื้นสูง วงฝุ่นแป้ง/รา—ถ้าเห็นเหาหนังสือ แปลว่าใกล้มีเชื้อราแล้ว รีบลด RH และตรวจจุดรั่ว/คอนเดนเสททันที

สรุปสั้น: เหาหนังสือไม่อันตรายต่อคน แต่เป็น “เครื่องชี้ปัญหาความชื้น” ชั้นดี จัดการความชื้นให้ถูก ระบาดก็จบเร็วและไม่ต้องพึ่งสารเคมีค่ะ.

แบบฟอร์มติดต่อกลับ

Visitors: 550,262