มอดฟันเลื่อยใหญ่ (Merchant Grain Beetle): รู้จักภัยเงียบในโกดังธัญพืช | วิธีป้องกันและกำจัด
มอดฟันเลื่อยใหญ่ (Merchant Grain Beetle)
นักลอบทำลายตัวจิ๋วที่ไม่ธรรมดา ศัตรูเงียบในโกดังอาหารและธัญพืช
ถ้าคุณเป็นเจ้าของโรงงานอาหารหรือคลังสินค้าเก็บวัตถุดิบ คงไม่มีใครอยากให้มีแขกไม่ได้รับเชิญตัวจิ๋วที่ชื่อว่า มอดฟันเลื่อยใหญ่ (Merchant Grain Beetle) หรือ Oryzaephilus mercator เพราะแมลงชนิดนี้สามารถสร้างความเสียหายให้กับสินค้าได้อย่างเงียบ ๆ จนกว่าจะสายเกินแก้!
รู้จักตัวตนของ "มอดฟันเลื่อยใหญ่"
- ชื่อวิทยาศาสตร์: Oryzaephilus mercator
- วงศ์: Silvanidae
- อันดับ: Coleoptera
มอดฟันเลื่อยใหญ่มีลำตัวสีน้ำตาลเข้ม แบนยาว ขนาดเพียง 2.5–3.0 มม. แต่แฝงความแข็งแรงไว้เต็มเปี่ยม จุดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้น "ขอบอก" ที่มีฟันเลื่อยข้างละ 6 ซี่ ทำให้มันมีชื่อเรียกสุดเท่และดูอันตราย ตัวเต็มวัยมีตาขนาดใหญ่ สังเกตง่ายกว่ามอดฟันเลื่อยทั่วไป
วงจรชีวิตอันรวดเร็ว
- ไข่: ใช้เวลา 3–5 วัน ตัวเมียวางไข่ได้ราว 200 ฟอง
- ตัวอ่อน: ใช้เวลา 14 วัน ลอกคราบ 2–5 ครั้ง
- ดักแด้: ใช้เวลา 6–10 วัน
- ตัวเต็มวัย: อายุยืน 6–10 เดือน วงจรชีวิตรวมประมาณ 30 วัน
เมนูโปรดของพวกมัน
- เมล็ดพืชน้ำมัน (เช่น ถั่วลิสง, มะม่วงหิมพานต์)
- ผลไม้แห้ง เนื้อมะพร้าวแห้ง
- แป้ง ขนมเค้ก มักกะโรนี
- อาหารทะเลแห้ง เช่น กระเพาะปลา
วิธีการทำลายที่เงียบเชียบแต่รุนแรง
มอดฟันเลื่อยใหญ่และตัวอ่อนจะทำงานเป็นทีม บุกกัดกินทั้งเมล็ดพืช ผลิตภัณฑ์ และอาหารแห้ง พวกมันสามารถเจาะเปลือกแข็งหรือถุงบรรจุได้ ทำให้สินค้ากลายเป็นผงและมีกลิ่นเหม็นอับ ส่งผลให้ไม่สามารถนำมาบริโภคหรือจำหน่ายได้ต่อ
การกระจายพันธุ์
มอดฟันเลื่อยใหญ่แพร่กระจายทั่วโลก พบมากในเขตร้อนและเขตอบอุ่น แม้จะบินไม่ได้ แต่มันสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วบนอาหาร จึงเป็นนักลอบทำลายที่น่ากลัว สภาพแวดล้อมที่มันโปรดปรานคืออุณหภูมิ 30–33 °C และความชื้นประมาณ 70%
✅ วิธีการป้องกันและควบคุม
✔ ทำความสะอาดสถานที่เก็บวัตถุดิบสม่ำเสมอ
✔ ลดความชื้นในเมล็ดพืชก่อนเก็บ
✔ ควบคุมอุณหภูมิด้วยการใช้ความร้อนหรือความเย็นจัด
✔ อบแก๊ส (Fumigation) ทั้งวัตถุดิบและสินค้าที่ต้องการ Reject
✔ ไม่ควรเก็บวัตถุดิบนานเกินไป ลดโอกาสสะสมและแพร่พันธุ์
✔ ใช้กับดักฟีโรโมน (Pheromone Trap) เพื่อตรวจสอบและควบคุมการระบาด
สรุป
แม้ตัวจะเล็ก แต่ มอดฟันเลื่อยใหญ่ สามารถทำให้สินค้าของคุณเสียหาย มูลค่าหายวับในพริบตา หากต้องการรักษาคุณภาพสินค้าและความปลอดภัย ควรใส่ใจเรื่องการจัดเก็บและเฝ้าระวังแมลงชนิดนี้อย่างใกล้ชิด
รู้ทันก่อน ป้องกันก่อน! เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้น อาจไม่ใช่แค่ตัวเลขบนกระดาษ แต่คือชื่อเสียงและความเชื่อมั่นของลูกค้าที่อาจหายไปตลอดกาล _-21.jpg)
FAQ : 3 คำถามยอดฮิต ของ มอดฟันเลื่อยใหญ่ (Oryzaephilus mercator)
คำถามที่ 1 มอดในถุงถั่ว/ขนมมาจากไหน—มาจากโรงงานหรือเกิดในโกดังเรา?
ส่วนใหญ่มาได้ 3 ทาง:
- ติดมากับวัตถุดิบ (ถั่วลิสง มะม่วงหิมพานต์ เนื้อมะพร้าวแห้ง ผลไม้แห้ง) ตั้งแต่ต้นทาง
- ปนจากบรรจุภัณฑ์/พาเลท ที่เก็บในคลังชื้นอุ่น (≈30–33 °C, RH ~70%)
- แพร่จากจุดสกปรกในไลน์ เช่น ใต้สายพาน–ใต้แท่น–มุมเสา ที่มีเศษอาหารสะสม
คำถามที่ 2 แยก “มอดฟันเลื่อยใหญ่” ออกจากมอดฟันเลื่อยชนิดอื่นแบบไว ๆ ได้อย่างไร?
- สภาพแวดล้อม/อาหาร: พบบ่อยกับ เมล็ดพืชน้ำมัน–ถั่ว–เนื้อมะพร้าวแห้ง มากกว่าซีเรียลล้วน
- รูปร่างภาคสนาม: ลำตัว แบนยาว 2.5–3 มม. สีน้ำตาลเข้ม, ขอบอกมี “ฟันเลื่อย” ข้างละ 6 ซี่ ชัด, ตาโต กว่ากลุ่มใกล้เคียง
- พฤติกรรมกับบรรจุภัณฑ์: เจาะซอกซีม/รอยต่อถุงได้เก่ง → มักพบ ผง/เศษอาหารร่วง ใต้พาเลทหรือในลังชั้นล่าง
ทิป: ถ้าพบการระบาดเด่นใน “ถั่ว/ถั่วเคลือบ/ผลไม้แห้ง” มากกว่าพวกแป้งล้วน ให้สงสัยมอดฟันเลื่อยใหญ่ก่อน
คำถามที่ 3 กำจัดให้จบเป็นรอบเดียว ต้องทำอะไรบ้าง? (Action Plan 24 ชั่วโมง)
ขั้น “หยุดยั้ง” (ชั่วโมง 0–4):
- แยกล็อตเสี่ยง/สินค้ามีรอยเจาะ–กลิ่นเหม็นอับ ออกจากสต็อกปกติทันที
- กวาด–ดูดฝุ่น ใต้สายพาน/ใต้เครื่อง/มุมเสา/ใต้พาเลท ให้เกลี้ยง (เศษเล็ก ๆ คือแหล่งเพาะ)
- แขวน ฟีโรโมน ทุก 10–15 ม. ในโซนเสี่ยงเพื่อประเมินความหนาแน่น
ขั้น “กำจัด” (ชั่วโมง 4–24):
1) ควบคุมอุณหภูมิสินค้า:
- ร้อน: ให้แกนสินค้าถึง 55–60 °C ≥ 60 นาที
- เย็น: ≤ –18 °C ≥ 72 ชั่วโมง (ล็อตย่อย/สินค้าทนเย็น)
3) พ่นกำจัดเฉพาะจุด (รอยต่อพื้น–ผนัง–ฐานเครื่อง) หลังทำความสะอาด เพื่อปิดเส้นทางเดิน
ขั้น “กันซ้ำ” (สัปดาห์ถัดไป):
- คุม RH < 55%, อุณหภูมิคลัง < 20 °C หากทำได้
- FIFO/FEFO เข้มงวด ลดการค้างสต็อก
- ตั้ง เกณฑ์แจ้งเตือน จากฟีโรโมน (เช่น ≥ 5 ตัว/กับดัก/สัปดาห์ = ทำความสะอาดลึก + พ่นเฉพาะจุด)
- ตรวจรับวัตถุดิบด้วยถาดสีอ่อน/อุ่นตัวอย่างเป็นกิจวัตร
คีย์สั้น ๆ ให้ทีมจำ: สะอาดทุกวัน · RH<55% · T<20°C · 55–60°C/60min · –18°C/72h · ฟีโรโมน + เทรนด์.




