English
Chinese
Japanese

ด้วงอิฐ (Khapra Beetle) ศัตรูเงียบในโกดังข้าว ที่อันตรายที่สุดในอุตสาหกรรมเกษตร

ด้วงอิฐ (Khapra Beetle)

แมลงจิ๋ว…แต่วิกฤติในโกดังเมล็ดพืช ที่อุตสาหกรรมการเกษตรต้องระวัง

หากคุณอยู่ในวงการโรงสี โรงงานแปรรูปธัญพืช หรือมีโกดังเก็บข้าวไว้จำนวนมาก คุณอาจกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงที่มองไม่เห็น — เพราะศัตรูตัวร้ายอาจไม่ใช่หนูหรือเชื้อรา แต่อาจเป็น “ด้วงอิฐ (Khapra Beetle)” แมลงขนาดเล็กจิ๋วแต่พลังทำลายสูง ที่สามารถทำให้ข้าวสารกลายเป็นผงโดยไม่รู้ตัว!

รู้จัก “ด้วงอิฐ” ให้ลึก ก่อนที่ข้าวทั้งโกดังจะเสียหาย

  • ชื่อวิทยาศาสตร์: Trogoderma granarium
  • วงศ์: Dermestidae
  • อันดับ: Coleoptera (แมลงปีกแข็ง)

ด้วงอิฐจัดเป็นแมลงปีกแข็งขนาดเล็กมาก ตัวเต็มวัยมีขนาดเพียง 2-3 มิลลิเมตร ลำตัวสีดำหรือน้ำตาลเข้ม มีลักษณะรูปไข่ ปกคลุมด้วยขนละเอียด และมักอาศัยซ่อนตัวในกองข้าวสาร ธัญพืช หรือแม้แต่ในตู้กับข้าวของบ้านเรือน

วงจรชีวิต: ระยะสั้น แต่สร้างความเสียหายมหาศาล

แม้จะมีอายุขัยเพียง 4–6 สัปดาห์ แต่ด้วงอิฐสามารถวางไข่และแพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่แห้งและร้อน เช่น ภาคกลางของไทย

  • ระยะไข่: 5–7 วัน ไข่มีลักษณะทรงกระบอกสีขาว
  • ตัวอ่อน: 30–50 วัน ตัวอ่อนมีขนยาวสีเข้ม ชอบแทรกตัวเข้าไปในเมล็ดข้าว
  • ดักแด้: 6–16 วัน
  • ตัวเต็มวัย: อายุเฉลี่ย 10–30 วัน

ข้อสังเกต: ข้าวสารที่ถูกทำลายจะมีลักษณะ “เปลือกนอกยังอยู่ แต่ข้างในเป็นผงแป้ง” และอาจพบจุดดำ ๆ หรือหนอนเล็ก ๆ อยู่ภายใน

แหล่งอาหารที่ด้วงอิฐโปรดปราน

  • ข้าว ข้าวสาร
  • ข้าวสาลี และผลิตภัณฑ์แปรรูป
  • ถั่วลิสง อัลมอนด์ วอลนัท
  • ลูกเกด มอลต์ และธัญพืชอื่น ๆ

ไม่เพียงเฉพาะโกดังเก็บสินค้าเท่านั้น ด้วงอิฐยังพบได้ในร้านขายของชำ และแม้แต่ภายในบ้านที่เก็บของแห้งไม่เหมาะสม

วิธีการป้องกันและควบคุม

เพื่อป้องกันไม่ให้ศัตรูจิ๋วตัวนี้แพร่ระบาดและสร้างความเสียหายมหาศาล ควรปฏิบัติดังนี้:

  • แยกของเสีย: ห้ามเก็บผลิตภัณฑ์ที่พบแมลงเข้าทำลายไว้รวมกับสินค้าใหม่
  • ทำความสะอาดสม่ำเสมอ: ทั้งภายในโกดัง พื้น ผนัง เครื่องมือ
  • ใช้ภาชนะปิดสนิท: ป้องกันไม่ให้ด้วงเข้าไปเจาะกินจากด้านใน
  • การรม: ใช้ฟอสฟีนหรืออลูมิเนียมฟอสไฟต์ในปริมาณและวิธีที่ปลอดภัย
  • สำรวจเชิงป้องกัน: หากพบเมล็ดข้าวเป็นผงหรือมีจุดดำในเมล็ด ควรแยกทันที

สรุป: เล็กพริกขี้หนู แต่ทำลายได้ทั้งโกดัง!

ด้วงอิฐอาจเป็นแค่แมลงขนาดจิ๋ว แต่กลับสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวงต่อวงการเกษตรและอาหารแห้ง หากไม่ควบคุมตั้งแต่ต้นทาง ผู้ประกอบการอาจต้องเผชิญกับการสูญเสียมูลค่าผลผลิตครั้งใหญ่โดยไม่รู้ตัว

ป้องกันไว้ก่อน...ดีกว่าแก้เมื่อสาย!


FAQ : 3 คำถามยอดฮิต ของ ด้วงอิฐ (Khapra Beetle, Trogoderma granarium)

คำถามที่ 1 จะรู้ได้ยังไงว่าเป็น “ด้วงอิฐ” จริง ไม่ใช่มอด/ด้วงชนิดอื่น? (อาการ–หลักฐานหน้างานที่ชัดสุด)

  • สัญญาณในเมล็ด: เมล็ด/ข้าวสาร “เปลือกยังอยู่แต่ข้างในเป็นผง” มี ผงแป้งละเอียดมาก กระจายเป็นวง พร้อม จุดดำ/ชิ้นส่วนตัวหนอน ปนอยู่
  • ตัวอ่อนจำแนกง่าย: สีออกน้ำตาล–ส้ม มีขนยาวฟูปลายหาง (tail tufts) เห็นชัดด้วยแว่นขยาย ต่างจากมอด/ด้วงคลังอื่นที่หนอนมักไม่มีขนเด่น
  • ตัวเต็มวัย: จิ๋ว 2–3 มม. รูปไข่ สีน้ำตาลเข้มปนดำ มีขนละเอียดทั่วยังดู “ด้าน” มากกว่าเงา
  • ของเสียเฉพาะ: มี หนังลอก (cast skins) ของตัวอ่อนจำนวนมาก — เป็นดัชนีสำคัญของการระบาดเรื้อรัง
  • ไม่มีใยเหมือนผีเสื้อหนอนคลัง: ถ้าเห็นใยเชื่อมเมล็ดเป็นก้อน มักเป็นผีเสื้อคลัง (Ephestia/Plodia) ไม่ใช่ด้วงอิฐ
  • เครื่องมือช่วยยืนยัน: วาง กับดักฟีโรโมนเฉพาะสกุล Trogoderma ในจุดเสี่ยง (ชานโหลด–ห้องพักวัตถุดิบ–ใต้ไลน์) เพื่อตรวจจับตัวเต็มวัย

คำถามที่ 2 วิธีกำจัดที่ทำได้ “ทันที” และปลอดภัยต่ออาหาร — ต้องเริ่มจากอะไรบ้าง?

1) Quarantine ล็อตต้องสงสัย: แยกกระสอบ/ถังเป็นโซน ปิดผนึกทันที ห้ามปนกับของดี
2) ทำความสะอาดเชิงลึก: ดูดฝุ่น/ผงแป้งใต้พาเลท รอยแตกพื้น–ผนัง–ใต้เครื่องจักร แล้วทิ้งนอกอาคาร
3) คุมอุณหภูมิเมล็ด (ไม่ใช้สาร)
  • Heat: อบเมล็ด/เมล็ดย่อยทดสอบที่ ≈60 °C ≥ 60 นาที (ตรวจคุณภาพก่อนใช้จริง)
  • Cold: ≤ –18 °C ≥ 72 ชม. เหมาะกับตัวอย่างย่อย/สินค้าบรรจุเล็ก
4) ฟูมิเกชัน (Fumigation): เมื่อการระบาดกว้าง/เก็บยาวนาน ให้ผู้ได้รับอนุญาตดำเนินการ ฟอสฟีน/อะลูมิเนียมฟอสไฟด์ ตามคู่มือความปลอดภัย
5) โครงสร้างอาคาร: ใช้สารกลุ่มไพรีทรอยด์ เฉพาะแนวผนัง–รอยแตก–พื้นที่ไม่สัมผัสอาหาร (Residual/Crack & Crevice) ห้ามพ่นบนเมล็ด
6) ปิดช่องทาง–ลดความชื้น: RH โกดัง < 55%, ความชื้นเมล็ด ≤ 12%, ซีลรอยรั่วอากาศ, ม่านลม/แรงดันบวกที่ชานโหลด
  • ติดตามผล: วางกับดักฟีโรโมน+บันทึกแนวโน้มรายสัปดาห์ ตั้ง action threshold ชัดเจนเพื่อทริกเกอร์มาตรการ

คำถามที่ 3 ทำไมหลายประเทศเข้มกับ “ด้วงอิฐ” ระดับศัตรูกักกัน (quarantine pest)? โรงสี/คลังควรตั้งมาตรฐานอะไรบ้างให้ผ่านออดิท

1) ความเสี่ยงสูงมาก: อยู่รอดได้ดีในสภาพ ร้อน–แห้ง, หนอนกิน “จากในเมล็ด” ตรวจยาก, วงจรสั้น ⇒ เสี่ยงกระทบการค้า/ปนเปื้อนข้ามพรมแดน

2) Inbound control:


  • ตรวจรับเข้าแบบสุ่ม 1–2 กก./ล็อต ร่อนตะแกรงละเอียด + ถาดขาวส่องไฟหาเศษหนังลอก/หนอน
  • เอกสาร fumigation certificate สำหรับวัตถุดิบเสี่ยง/มาจากพื้นที่ระบาด
3) SOP สุขลักษณะ: แผนทำความสะอาด รายวัน/รายสัปดาห์/รายเดือน, โซนสกปรก→สะอาดทางเดียว, พื้นที่พักขยะแยกอาคาร
4) โครงสร้าง & exclusion: ซีลประตู/ช่องลม, ม่านลม, มุ้งลวด, ยกพาเลทห่างพื้น–ผนัง ≥ 10 ซม., ไล่จุดสะสมฝุ่น
5) Stock management: FIFO/FEFO เคร่งครัด, จำกัดเวลาพักสินค้า, โลจิสติกส์ไม่วนกลับ
6) Monitoring & Records: แผนวางกับดัก, แผนที่จุดเสี่ยง, บันทึกแนวโน้ม, รายงานเหตุ–การตอบสนอง, หลักฐานอบ/รมทุกครั้ง
7) Training: อบรมพนักงานให้แยกแยะ “ด้วงอิฐ vs แมลงคลังอื่น”, วิธีแจ้งเหตุ–กักกัน–ทำความสะอาดที่ถูกต้อง

แนวคิดศูนย์กลาง: ป้องกันตั้งแต่ด่านรับเข้า + สุขลักษณะ + ความชื้น/อุณหภูมิ + เฝ้าระวังต่อเนื่อง จะลดโอกาสเจอ “เหตุใหญ่” จนต้องทิ้งทั้งล็อตได้มากที่สุด.

แบบฟอร์มติดต่อกลับ

Visitors: 550,421