ด้วงหนัง (Hide Beetle) | ศัตรูสำคัญของอาหารแห้งและผลิตภัณฑ์จากสัตว์
ด้วงหนัง (Hide Beetle)
ภัยเงียบในโกดังของแห้ง – ตัวทำลายเนื้อสัตว์แปรรูปและผลิตภัณฑ์จากสัตว์ทุกชนิด
หากคุณเคยเจอปลาหวานที่มีรูแทะ หรือเบคอนที่เก็บไว้แล้วส่งกลิ่นเหม็นผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณเตือนของ “ด้วงหนัง” (Hide beetle) หรือชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Dermestes maculatus แมลงตัวจิ๋วที่สร้างความเสียหายได้ใหญ่หลวงในอุตสาหกรรมอาหารแห้งโดยเฉพาะกลุ่มอาหารจากเนื้อสัตว์ เช่น ปลาแห้ง กุ้งแห้ง หรือแม้แต่ผลิตภัณฑ์จากหนังสัตว์และกระดูกป่น
ลักษณะทางชีววิทยา
ตัวเต็มวัยของด้วงหนังมีลำตัวยาวประมาณ 6–10 มิลลิเมตร สีดำหรือน้ำตาลเข้ม ปกคลุมด้วยขนละเอียด หนวดมีลักษณะกลมปลายคล้ายตุ้ม (capitate antennae) และมีปีกคู่หน้าแข็ง (elytra) คลุมลำตัว โดยปลายปีกมีลักษณะหนามแหลมเป็นเอกลักษณ์
แมลงชนิดนี้เจริญเติบโตแบบสมบูรณ์ (Complete Metamorphosis) แบ่งเป็น 4 ระยะ คือ:
- ไข่ (4–5 วัน) วางไข่สีขาวนวลในบริเวณที่มีอาหาร
- ตัวอ่อน (20–40 วัน) มีสีดำและมีขนปกคลุม พบพฤติกรรม “กินกันเอง” โดยจะกัดกินไข่และดักแด้ด้วยกันเองหากอาหารไม่เพียงพอ
- ดักแด้ (5–7 วัน) พักตัวเพื่อเตรียมเปลี่ยนเป็นตัวเต็มวัย
- ตัวเต็มวัย (อยู่ได้นานถึง 6 เดือน)
แหล่งอาหารโปรด
ด้วงหนังชอบอาหารจากสัตว์ เช่น:
- ปลาแห้ง, กุ้งแห้ง, หอยแห้ง, ปลาเค็ม, เบคอน
- หนังสัตว์, กระดูกป่น, เขาสัตว์, ขนสัตว์
- ซากแมลง และแม้แต่เครื่องหนังต่าง ๆ
ลักษณะการทำลาย
ด้วงหนังจะกัดแทะอาหารให้เกิดเป็นรู ชอนไชเข้าไปในเนื้อวัตถุดิบ ส่งกลิ่นเหม็นและทำให้ปนเปื้อน ตัวอ่อนโดยเฉพาะมีแรงกัดสูง สามารถทำลายได้ทั้งผลิตภัณฑ์ที่เก็บไว้ในโกดัง และวัตถุทางชีวภาพที่ใช้ในพิพิธภัณฑ์ เช่น ซากสัตว์ หรือหนังสัตว์ดองตัวอย่าง
การแพร่กระจาย
พบได้ทั่วโลก โดยเฉพาะในพื้นที่เขตร้อนและร้อนชื้น เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย
วิธีการป้องกันและควบคุม
เพื่อป้องกันการระบาดของด้วงหนังในพื้นที่เก็บวัตถุดิบหรืออาหาร ควรปฏิบัติดังนี้:
✅ รักษาความสะอาด พื้นโรงเก็บ อุปกรณ์ และภาชนะบรรจุอย่างสม่ำเสมอ
✅ แยกผลิตภัณฑ์ที่พบการเข้าทำลายออกทันที ห้ามเก็บรวมกับของใหม่
✅ ใช้ภาชนะปิดสนิท ในการจัดเก็บเพื่อป้องกันการแพร่พันธุ์
✅ รมด้วยโอโซน ความเข้มข้น 60 ppm เป็นเวลา 32 ชม. สามารถกำจัดตัวเต็มวัยได้ถึง 100% (อาจมีผลต่อสีและกลิ่นผลิตภัณฑ์)
บทสรุป
แม้ด้วงหนังจะมีขนาดเพียงไม่กี่มิลลิเมตร แต่ความเสียหายที่มันก่อในอุตสาหกรรมอาหารทะเลแห้งและของแห้งจากเนื้อสัตว์นั้นนับว่า “รุนแรง” หากไม่ควบคุมให้ดี จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เจ้าของโกดัง ร้านค้า หรือโรงงานแปรรูปต้องเฝ้าระวังและหมั่นตรวจสอบแมลงชนิดนี้อย่างใกล้ชิด