English
Chinese
Japanese

ด้วงเจาะฝักข้าวโพด (Corn Sap Beetle): ศัตรูตัวจิ๋วที่ทำลายเมล็ดข้าวโพด | กีฏวิทยาแมลง

ด้วงเจาะฝักข้าวโพด (Corn Sap Beetle)

ตัวเล็กแต่ร้าย ทำลายข้าวโพดตั้งแต่ต้นจนเก็บเกี่ยว!

ข้าวโพด เป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่เกษตรกรหลายพื้นที่พึ่งพาเพื่อการบริโภคและส่งออก แต่ภัยร้ายที่แฝงตัวอยู่เงียบ ๆ กลับกลายเป็นสาเหตุของการสูญเสียผลผลิตอย่างไม่น่าเชื่อ — นั่นคือ “ด้วงเจาะฝักข้าวโพด” หรือ Corn Sap Beetle (Carpophilus dimidiatus)

แมลงปีกแข็งขนาดเล็กนี้อาจมองด้วยตาเปล่าไม่ถนัด แต่ผลกระทบจากการระบาดสามารถทำให้ทั้งฝักเน่าเสีย และเมล็ดข้าวโพดกลายเป็นแหล่งเชื้อรา หากไม่ควบคุมตั้งแต่เนิ่น ๆ อาจสายเกินแก้!

รู้จักเจ้าตัวร้าย: ด้วงเจาะฝักข้าวโพดคืออะไร?

  • ชื่อวิทยาศาสตร์: Carpophilus dimidiatus (F.)
  • วงศ์: Nitidulidae
  • อันดับ: Coleoptera

ลักษณะเด่นของตัวเต็มวัย:

  • ขนาดลำตัวเพียง 1.6–1.8 มม.
  • ลำตัวสีน้ำตาลแดง มีจุดเหลืองจาง ๆ ที่มุมปีก และปลายปีกมีแถบเหลือง
  • ปีกหน้าแข็งแต่ ไม่คลุมถึงปลายท้อง
  • หนวดแบบกลุ่มตุ้ม (capitate antennae)
  • ปกคลุมด้วยขนสีน้ำตาลอ่อน เห็นได้ภายใต้แว่นขยาย
  • ลำตัวมีลักษณะเงาวาว ดูคล้ายแมลงขนาดจิ๋วแต่เคลื่อนไหวว่องไว

วงจรชีวิต: เจริญเร็ว ขยายพันธุ์ไว

ด้วงเจาะฝักข้าวโพดมีการเจริญเติบโตแบบ Complete Metamorphosis โดยใช้เวลารอบชีวิตเพียง 45 วัน!

  • ไข่: ใช้เวลาเพียง 2–3 วันในการฟัก
  • ตัวอ่อน: ใช้เวลา 6–14 วัน เริ่มกัดกินเมล็ดอย่างรวดเร็ว
  • ดักแด้: พักตัวเปลี่ยนร่างในดินนาน 5–11 วัน
  • ตัวเต็มวัย: มีอายุยืนยาวถึง 1 ปี และวางไข่ได้มากกว่า 1,000 ฟอง

แหล่งอาหารและลักษณะการทำลาย

ด้วงชนิดนี้ไม่ได้ทำลายแค่ข้าวโพดเท่านั้น แต่ยังลุกลามไปยัง:

  • เมล็ดปาล์ม, มะพร้าวแห้ง, โกโก้
  • ข้าว, มะขามหวาน, มะม่วงหิมพานต์ ฯลฯ

โดยเฉพาะในแปลงข้าวโพด

  • ตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะกัดกินเมล็ดข้าวโพดจนเป็นโพรงลึก
  • ฝักข้าวโพดที่ถูกทำลายจะเกิด เชื้อราดำ จากการสัมผัสน้ำหวานและความชื้น
  • ส่งผลให้ฝักไม่สามารถบริโภคหรือแปรรูปได้ และเกิดความเสียหายด้านคุณภาพอย่างรุนแรง

การแพร่กระจาย

  • พบได้ทั่วไปใน เขตร้อนทั่วโลก
  • ระบาดได้ทั้งในไร่และระหว่างการจัดเก็บ
  • แพร่พันธุ์ไวหากไม่มีการจัดการที่เหมาะสม

วิธีป้องกันและควบคุมที่ได้ผล

✅ การควบคุมทางกายภาพ:

  • ใช้ความร้อน/ความเย็นจัดเพื่อหยุดการพัฒนา
  • เผาทำลายผลผลิตที่ถูกทำลายเพื่อกำจัดต้นตอ
  • ไม่เก็บผลิตผลไว้ในที่เดิมเป็นเวลานาน

✅ การควบคุมทางเคมี:

  • อบแก๊ส Fumigation วัตถุดิบก่อนจัดเก็บ
  • ใช้ Fumigate สินค้าที่รอ Reject เพื่อป้องกันการกระจายตัวของแมลงในโรงเก็บ

✅ การตรวจสอบและติดตาม:

  • ติดตั้งกับดักฟีโรโมน (Pheromone traps) เพื่อตรวจจับการระบาด
  • เฝ้าระวังฝักที่มีจุดรอยดำหรือเนื้อฝักแห้งผิดปกติ

บทสรุป

แม้จะมีขนาดเล็กแค่ปลายเข็ม ด้วงเจาะฝักข้าวโพดกลับสร้างความเสียหายระดับโรงงานและไร่นาได้ หากเกษตรกรไม่รู้จักแมลงชนิดนี้อย่างลึกซึ้งและวางมาตรการป้องกันที่เหมาะสม คุณอาจต้องสูญเสียรายได้โดยไม่ทันตั้งตัว!

FAQ : 3 คำถามยอดฮิต ของ ด้วงเจาะฝักข้าวโพด (Corn Sap Beetle, Carpophilus dimidiatus)

คำถามที่ 1 จะแยก “ด้วงเจาะฝักข้าวโพด” ออกจากศัตรูอื่น ๆ ของฝัก (เช่น หนอนเจาะฝัก) ยังไง? มีสัญญาณระบาดอะไรให้เช็กเร็ว ๆ

  • ด้วง: ตัวจิ๋ว สีน้ำตาลแดง 1.6–1.8 มม. ปีกหน้า ไม่คลุมถึงปลายท้อง มีแต้มเหลืองจาง ๆ หนวด ปลายเป็นตุ้ม; มักเห็น ตัวเต็มวัย+หนอนด้วงสีขาวเหลือง วิ่ง/ชอนไชตามซอกเมล็ดสุก หวาน ชื้น
  • หนอนผีเสื้อเจาะฝัก: ตัวอ่อนขนาดใหญ่กว่า ทิ้ง มูลเม็ด ๆ และรูเจาะกว้าง
  • สัญญาณเตือนเร็ว: ปลายฝักแฉะ–หวาน–กลิ่นหมัก, เมล็ด ยุ่ยเป็นโพรง, มี เชื้อราดำ ขยายตามรอยช้ำ และพบด้วงปีกสั้น ๆ กระจายตามปลายฝัก/พื้นแปลง

คำถามที่ 2 ทำไมฝักที่ถูกด้วงเจาะมักขึ้นราและเสี่ยง “สารพิษเชื้อรา”? ป้องกันยังไงหลังเก็บเกี่ยว

ด้วงเปิด “ประตูแผล” ให้เชื้อราโดยตรง ความหวาน+ความชื้นของปลายฝักดึงดูดเชื้อรากลุ่ม Aspergillus / Fusarium → เสี่ยง อะฟลาทอกซิน/ฟูโมนิซิน ในเมล็ดได้
ลดความเสี่ยงแบบเร่งด่วน:

  • เก็บเกี่ยวให้ทันเวลา ไม่ปล่อยฝักสุกคาต้นนาน
  • ตัดปลายฝักเสียทิ้ง แยกจากของดีทันที
  • ทำให้แห้งเร็ว: ลดความชื้นเมล็ดให้ต่ำกว่า 13–14% ภายใน 24–48 ชม.
  • ทำความสะอาดเศษฝักหวาน/เมล็ดร่วง รอบแปลงและลานตาก เพราะเป็นแหล่งดึงด้วงระลอกใหม่

3) คุมด้วงให้เอาอยู่ทั้ง “แปลง–ลานตาก–โกดัง” ต้องทำอะไรบ้าง (แบบ IPM สั้น ๆ ทำได้จริง)
ในแปลง

  • สุขอนามัยแปลง: เก็บกวาด ฝักแตก/เมล็ดร่วง/ผลผลิตค้างคืน ทุกวันช่วงเก็บเกี่ยว
  • เหยื่อล่อกลิ่นหมัก รอบขอบแปลง (กากน้ำตาล/ยีสต์ผลไม้ในขวดดัก) ร่วมกับ กับดักฟีโรโมน ลด–มอนิเตอร์ตัวเต็มวัย
  • เว้นช่วงปลูก/เก็บเกี่ยวให้ แปลงสะอาด (พ้นช่วงอาหารต่อเนื่อง) ลดแรงดึงดูดแมลง
หลังเก็บเกี่ยว–ลานตาก
  • ตาก/อบให้ถึงเป้าเร็ว (≤13–14% ความชื้น), ใช้ผ้า/ตะแกรงคลุมกันแมลงลงไข่
  • คัดทิ้งฝัก/เมล็ดที่มีเชื้อรา–กลิ่นหมัก
ในการเก็บ
  • ภาชนะปิดผนึก (hermetic), โกดังสะอาด แห้ง เย็น
  • หากพบปนเปื้อนแล้วให้ ความร้อน (≈60 °C 60–90 นาที) หรือ แช่เย็นจัด (≤–18 °C ≥72 ชม.) เพื่อหยุดทุกระยะ
  • อบแก๊ส (fumigation) สำหรับล็อตใหญ่หรือมีการระบาดชัดเจน (ให้ผู้เชี่ยวชาญดำเนินการ)

สูตรจำ: สะอาดเร็ว–แห้งไว–ปิดมิด–ดักติด–คัดทิ้ง–ฟูมิเกตเมื่อจำเป็น ทำครบ ด้วงเจาะฝักข้าวโพดอยู่ไม่ได้นานครับ/ค่ะ.

แบบฟอร์มติดต่อกลับ

Visitors: 550,496