ด้วงงวงข้าวโพด (Maize Weevil) | ศัตรูสำคัญของธัญพืชในคลังเก็บ
ด้วงงวงข้าวโพด (Maize Weevil)
ภัยเงียบในโกดังเก็บผลผลิต ที่เกษตรกรต้องรู้เท่าทัน!
- ชื่อสามัญ: Maize weevil
- ชื่อวิทยาศาสตร์: Sitophilus zeamais (Motschulsky)
- วงศ์: Curculionidae
- อันดับ: Coleoptera
ลักษณะทางกายภาพเด่นชัด
- หนวด: แบบหักข้อศอก (geniculate)
- ปีก: คู่หน้าแข็งแบบ Elytra มีร่องเล็กทั่วแผ่น ปีกคู่หลังบางใส ช่วยบินได้คล่อง
- ปาก: แบบกัดกิน (chewing type)
- ขา: แบบขาเดิน (walking legs)
- ลำตัว: ยาวประมาณ 3.0 - 3.8 มม. สีน้ำตาลดำ หัวแหลมยื่นเป็นงวง (snout) ลักษณะคล้าย S. oryzae แต่ใหญ่กว่าเล็กน้อยและสีเข้มกว่า
วงจรชีวิตที่ควรจับตา
เจริญเติบโตแบบสมบูรณ์ (Complete Metamorphosis) ครบ 4 ระยะ:
- ไข่: ใช้เวลา 3–6 วัน ตัวเมียวางไข่เฉลี่ย 300–400 ฟอง
- ตัวอ่อน: 20–30 วัน ลำตัวสีขาว สั้นป้อม ไม่มีขา กัดกินภายในเมล็ด
- ดักแด้: 3–7 วัน อยู่ในโพรงของเมล็ด
- ตัวเต็มวัย: อายุเฉลี่ย 1–8 เดือน รวมใช้เวลาทั้งหมด 30–45 วัน
แหล่งอาหารและรูปแบบความเสียหาย
- อาหารโปรด: ข้าวโพด ข้าว ข้าวสาลี ข้าวฟ่าง ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ ฯลฯ
- ลักษณะการทำลาย: ตัวอ่อนเจาะกินเมล็ดจากภายใน ทำให้เมล็ดกลวง เป็นรู เสียหายทั้งด้านคุณภาพและมูลค่าทางเศรษฐกิจ
พื้นที่การระบาด
พบได้ทั่วโลก โดยเฉพาะแหล่งปลูกข้าวโพดในเขตร้อนและกึ่งร้อน เช่น ไทย อินเดีย แอฟริกา ละตินอเมริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วงชนิดนี้บินเก่ง และขยายพันธุ์ได้รวดเร็ว
เทคนิคป้องกันและควบคุม
- ทำความสะอาดคลังเก็บ – ลดแหล่งอาหารและที่หลบซ่อน
- ลดความชื้นของเมล็ด – ให้ต่ำกว่า 12% ก่อนเก็บเข้าคลัง
- ควบคุมอุณหภูมิ – ใช้ความร้อน (>60°C) หรือความเย็นจัด (<4°C)
- อบแก๊ส Fumigation – เช่น ฟอสฟีนในห้องปิด
- หมุนเวียนผลผลิต – ไม่ควรเก็บเกิน 3–6 เดือน
- ติดตั้งกับดักฟีโรโมน – เพื่อเฝ้าระวังและกำจัดตัวเต็มวัย
อ้างอิง
พรทิพย์ วิสารทานนท์ และคณะ. (2551). แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด. สำนักวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว กรมวิชาการเกษตร
FAQ : 3 คำถามยอดฮิต ของ ด้วงขาโต (Tamarind Seed Beetle, Caryedon serratus)
คำถามที่ 1 จะรู้ได้ยังไงว่าเป็น “ด้วงขาโต” ไม่ใช้มอดถั่วชนิดอื่น? มีสัญญาณระบาดอะไรให้สังเกตบ้าง
- จุดจำแนกเร็ว: ขาหลัง (femur) โตมาก ด้านในมี ฟันเลื่อยเป็นขอบคม และ tibia โค้งงอ; ปีกหน้ามีขนปกคลุม, หนวดกึ่งฟันเลื่อย
- รอยระบาดในมะขาม/ถั่ว: รูเจาะบนเมล็ด/ฝัก, มี เศษผง+มูลสีน้ำตาล, บางฝักจะเห็น ปลอกดักแด้ (cocoon) ติดอยู่ภายใน
- เวลาเสี่ยง: ฝัก/เมล็ด ยังไม่แห้งสนิท หรือเก็บในที่อับชื้น → ตัวเมียจะวางไข่บนผิวเมล็ดแล้วลูกหนอนเจาะเข้าไปกินด้านใน
คำถามที่ 2 กำจัดด้วงขาโตใน “มะขามแห้ง–ถั่วลิสง” ให้จบวงจร ต้องทำยังไงบ้าง?
แผน IPM สั้น ๆ ทำตามลำดับนี้
1) คัดแยก: ตัดทิ้งฝัก/เมล็ดที่มีรูพรุน มีกลิ่นเหม็น หรือมีผงมูลมาก2) ความร้อน/ความเย็น (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)
- ร้อน: 60 °C นาน 60–90 นาที หรือ 50 °C นาน ~100 นาที (ให้ความร้อนทะลุถึงแกนเมล็ด)
- แช่แข็ง: –18 °C นาน ≥72 ชม. ฆ่าไข่–หนอน–ดักแด้
4) ลดความชื้น: ทำให้เมล็ด/ฝักแห้ง ความชื้นเมล็ด <10–12% ก่อนเข้าเก็บ
5) สุขลักษณะโกดัง: กวาด–ดูดฝุ่นใต้พาเลท/มุมเสาอย่างสม่ำเสมอ
6) ฟีโรโมนทรัพย์: ตั้ง กับดักฟีโรโมนล่อเพศผู้ เพื่อติดตาม/ลดประชากรตัวเต็มวัย
7) อบแก๊ส (fumigation): ใช้เมื่อเก็บปริมาณมากหรือมีการระบาดยืนยัน (ให้ผู้เชี่ยวชาญดำเนินการ)
คำถามที่ 3 เมล็ดมะขาม/ถั่วที่มีรูจากด้วง “ยังกินได้ไหม”? จะกระทบเมล็ดพันธุ์ยังไง?
- อาหาร/ขายปลีก: ไม่แนะนำ — เมล็ดที่ถูกหนอนกิน คุณภาพ–รสชาติ–ความสะอาดตก และมีความเสี่ยง เชื้อราปนเปื้อน (โดยเฉพาะกลุ่มถั่ว) ควรคัดทิ้งทั้งส่วนที่ปนเปื้อน
- เมล็ดพันธุ์: เมล็ดที่ถูกเจาะ งอกได้น้อยมาก เพราะจุดงอก (germ) มักถูกทำลาย → ใช้ไม่ได้เป็นพันธุ์
- เคล็ดลับกันซ้ำ: หลังรับของล็อตใหม่ กักกัน 2–3 สัปดาห์ ในภาชนะปิด, ตรวจทุกสัปดาห์ 6 สัปดาห์แรก, ทำความร้อน/เย็นก่อนนำเข้าเก็บยาว
สรุปสั้น: “คัด–ทรีตร้อน/เย็น–เก็บปิด–ชื้นต่ำ–ตรวจด้วยฟีโรโมน” ทำครบ วงจรด้วงขาโตหยุดได้จริง และรักษาคุณภาพมะขาม/ถั่วให้ปลอดภัยยาว ๆ.