ด้วงคาเดล (Cadelle Beetle) | ศัตรูร้ายในโรงเก็บธัญพืช พร้อมวิธีควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วงคาเดล (Cadelle Beetle)
ภัยเงียบในโรงเก็บเมล็ดพืชและธัญพืชทั่วโลก
ด้วงคาเดล หรือ Cadelle Beetle (Tenebroides mauritanicus) เป็นแมลงปีกแข็งในวงศ์ Trogossitidae ที่พบระบาดได้ทั่วโลก โดยเฉพาะในโรงเก็บเมล็ดพืช แหล่งเก็บผลผลิตทางการเกษตร และพื้นที่จัดเก็บพืชแห้ง ด้วงชนิดนี้สร้างความเสียหายทั้งในรูปแบบของการกัดกินโดยตรง และการเปิดช่องให้แมลงศัตรูอื่นเข้าทำลายซ้ำ อีกทั้งยังมีความทนทานต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ควบคุมได้ยากหากไม่จัดการอย่างเหมาะสม
ข้อมูลพื้นฐานทางอนุกรมวิธาน
- ชื่อสามัญ: Cadelle Beetle
- ชื่อวิทยาศาสตร์:Tenebroides mauritanicus (Linnaeus)
- วงศ์: Trogossitidae
- อันดับ: Coleoptera
ลักษณะทางสัณฐานวิทยา
ขนาดลำตัว: 5.0 – 11.0 มม.สีลำตัว: ดำแวววาว
หนวด: แบบกระบอง (clavate)
ปีก:
- ปีกคู่หน้าแข็ง (elytra) มีร่องยาวตามแนวปีก
- ปีกคู่หลังบางใส (membrane)
ลักษณะเด่น:
- ส่วนหัวและอกเชื่อมติดกันแน่นเหมือนเป็นชิ้นเดียว
- รอยคอดบริเวณอกกับท้องเด่นชัดคล้ายมี “เอว”
- ขอบอกเรียบไม่มีหยัก แต่โค้งแหลมเล็กน้อยบริเวณด้านบน
วงจรชีวิตของด้วงคาเดล
เป็นแมลงที่มีการเจริญเติบโตแบบสมบูรณ์ (Complete Metamorphosis) ได้แก่ 4 ระยะ:
- ใช้เวลา 7–10 วัน
- ตัวเมียวางไข่ได้สูงสุดถึง 1,000 ฟอง
- ไข่มีลักษณะยาวรี สีขาวขุ่น
- ใช้เวลา 43 วัน
- ลำตัวแบน สีขาวอมเทา
- ลอกคราบ 3–7 ครั้ง
- ใช้เวลา 7 วัน
- เข้าดักแด้ในรูที่เจาะไว้บริเวณเมล็ดหรือรอยแตกของเนื้อไม้
- อายุขัยเฉลี่ย 1–3 ปี
- วงจรชีวิตตั้งแต่ไข่ถึงตัวเต็มวัยประมาณ 2 เดือน
แหล่งอาหารและลักษณะการทำลาย
พืชและผลิตผลที่พบการทำลาย:
- ธัญพืช (เช่น ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ข้าวสาลี)
- พืชน้ำมัน เช่น เมล็ดปาล์ม มะกอก ทานตะวัน
- เมล็ดพืชกลุ่ม Gramineae และ Compositae
ลักษณะการทำลาย:
- ตัวเมียวางไข่ตามรอยแยกของเมล็ดหรือเนื้อไม้
- ตัวอ่อนเจาะทำลายจุดงอกของเมล็ด
- หนอนวัยสุดท้ายเจาะเข้าไปสร้างรังดักแด้ภายในเมล็ด
- ตัวเต็มวัยและตัวอ่อนสามารถทนต่อการขาดอากาศ (เช่น ในถังปิด) ได้
- ยังเป็นแมลงห้ำที่อาจทำลายไข่และตัวอ่อนของแมลงศัตรูอื่นได้อีกด้วย
การแพร่กระจาย
พบแพร่กระจายทั่วโลก โดยเฉพาะในเขตร้อนและกึ่งร้อน และสามารถพบได้ตลอดทั้งปีในโรงเก็บพืชหรือโกดังที่มีการจัดเก็บธัญพืชแบบยาวนาน
แนวทางการป้องกันและควบคุม
✅ มาตรการป้องกัน:
- คัดแยกและกำจัดผลิตผลที่พบการเข้าทำลาย
- หลีกเลี่ยงการเก็บเมล็ดพืชไว้ในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงหรือไม่มีการควบคุมอุณหภูมิ
- หมั่นตรวจสอบรอยแตกในเมล็ดหรือบรรจุภัณฑ์ เพราะเป็นจุดที่ด้วงใช้วางไข่
✅ มาตรการควบคุม:
- ใช้สารเคมีกำจัดแมลงฉีดพ่นในพื้นที่เกาะพักและจุดวางไข่
- พิจารณาใช้การอบแก๊ส (fumigation) ในโรงเก็บที่มีความเสี่ยง
- ทำความสะอาดโกดังและพื้นที่จัดเก็บเป็นประจำเพื่อลดแหล่งสะสมของตัวอ่อน
สรุป
ด้วงคาเดล (Tenebroides mauritanicus) เป็นแมลงศัตรูที่พบได้ในโรงเก็บธัญพืชและผลิตผลแห้งทั่วโลก โดยทำลายได้ทั้งในระยะตัวอ่อนและตัวเต็มวัย จุดแข็งของแมลงชนิดนี้คือความสามารถในการอยู่รอดในสภาพที่อากาศจำกัด และการวางไข่ในจุดที่ยากต่อการตรวจสอบ การป้องกันจึงควรทำแบบผสมผสาน ทั้งในด้านการจัดการแหล่งเก็บ การตรวจสอบวงจรชีวิต และการกำจัดอย่างเป็นระบบ
FAQ : — 3 คำถามยอดฮิต ของ ด้วงคาเดล (Tenebroides mauritanicus) ที่คนถามบ่อย
คำถามที่ 1 รู้ได้ยังไงว่าเป็น “ด้วงคาเดล” ไม่ใช่มอดเมล็ด/ด้วงคลังชนิดอื่น? จุดสังเกตเร็วมีอะไรบ้าง
- ลำตัว ดำแวว ยาว 5–11 มม., อกกับหัวดูแนบเป็นชิ้นเดียว มี “คอดเอว” ชัด
- ปีกแข็งมี ร่องยาวตามแนวปีก หนวดแบบกระบอง (ปลายหนา)
- ในสต็อกจะเห็น รอยเจาะจุดงอกของเมล็ด, ฝุ่นผงหยาบ, และตัวอ่อนแบนสีขาวอมเทา
- ต่างจากมอดงวง (Sitophilus): มอดงวงมี “งวงยาว” ชัด—ด้วงคาเดลไม่มีงวง
- ต่างจากด้วงแดง/คัมพารีลิโอบางชนิด: ด้วงคาเดล ตัวใหญ่ แข็งแรง เคลื่อนช้ากว่า และชอบอาศัยตามรอยแตกไม้/ผนังโกดังร่วมด้วย
คำถามที่ 2 กำจัดด้วงคาเดลแบบไม่เสียคุณภาพเมล็ด ทำยังไงก่อนต้องไปถึงขั้นรมแก๊ส (fumigation)?
- คัด–แยกล็อตปนเปื้อนทันที: ย้ายออกจากของดี ลดการลาม
- แช่เย็น/แช่แข็งเชิงเทคนิค: -18 °C นาน ≥72 ชม. (เมล็ด/ธัญพืชที่ทนได้) เพื่อฆ่าทุกวัย
- อบร้อนแบบควบคุม: 55–60 °C ~ 1 ชม. (ทดสอบความงอก/คุณภาพก่อนใช้กับเมล็ดพันธุ์)
- ฮอร์เมติกสตอเรจ: เปลี่ยนเป็น ถุง/ภาชนะปิดผนึกสนิท (ตัด O₂) หลังผ่านขั้นตอนฆ่าแมลง
- สุขาภิบาลคลัง: ดูดฝุ่นร่องพื้น–ผนัง–พาเลต, อุดรอยแตกไม้ (จุดวางไข่ยอดฮิต)
- เฝ้าระวังเชิงรุก: กับดักกาว/หลุมตรวจ + บันทึกแนวโน้มรายสัปดาห์
หากยังพบการทำลายต่อเนื่อง/สต็อกปริมาณมาก → ค่อยพิจารณา รมแก๊สโดยผู้ได้รับอนุญาต เท่านั้น
คำถามที่ 3 ป้องกันไม่ให้กลับมาอีก ต้องตั้งค่าคลังเก็บและ SOP แบบไหนถึงเอาอยู่?
- ความชื้นคือหัวใจ: คุมความชื้นเมล็ดให้เหมาะ (เมล็ดบริโภค <13% โดยทั่วไป) และ RH คลัง <60%
- อุณหภูมิ–การระบายอากาศ: คลังเย็น ลมเดินได้; วางพาเลตยกพื้น ≥10–15 ซม. และห่างผนัง ≥30–50 ซม.
- FIFO เข้มงวด: หมุนเวียนสต็อก ลดเวลาพักในคลัง
- จุดเสี่ยงไม้/โครงสร้าง: ซีลรอยแตก–รอยต่อ, ใช้ชั้น/พาเลตที่ทำความสะอาดง่าย
- จุดคัดรับเข้า (QA gate): ตรวจตัวเต็มวัย/เศษผงตั้งแต่รับวัตถุดิบ—เจอความเสี่ยงให้กักกันและ “รีเซ็ตอุณหภูมิ” ก่อนเข้าโซนหลัก
- ตารางตรวจมาตรฐาน: สุ่มเปิดถุง/ไซโลทุกสัปดาห์ช่วง 4–6 สัปดาห์แรก และรายปักษ์ถัดไป พร้อม log หลักฐานภาพ/ปริมาณจับได้
สูตรชนะด้วงคาเดลแบบยั่งยืน: แห้งจริง + เย็นพอ + ปิดผนึก + คลีนคลัง + มอนิเตอร์ต่อเนื่อง ก่อนคิดถึงสารเคมีหรือการรมแก๊ส.