English
Chinese
Japanese

ด้วงกาแฟ (Coffee Bean Weevil) | ศัตรูแฝงในกาแฟและพืชแห้ง พร้อมแนวทางป้องกันครบวงจร

ด้วงกาแฟ (Coffee Bean Weevil)

ภัยเงียบในผลผลิตกาแฟและพืชแห้งทางการเกษตร

ด้วงกาแฟ หรือ Coffee Bean Weevil (Araecerus fasciculatus) เป็นแมลงปีกแข็งขนาดเล็กที่สร้างความเสียหายให้กับผลิตผลทางการเกษตรทั้งในระยะเก็บเกี่ยวและหลังการเก็บเกี่ยว โดยเฉพาะ เมล็ดกาแฟ มันสำปะหลังแห้ง และผลิตภัณฑ์แห้งหลายชนิด เช่น สมุนไพร เครื่องเทศ หรือแป้งอาหาร

แมลงชนิดนี้พบได้ในหลายประเทศในเขตร้อนและกึ่งร้อน โดยเฉพาะในพื้นที่เพาะปลูกที่มีความชื้นสูงและการจัดการหลังเก็บเกี่ยวที่ไม่ดีพอ

ข้อมูลพื้นฐาน

  • ชื่อสามัญ: Coffee Bean Weevil
  • ชื่อวิทยาศาสตร์:Araecerus fasciculatus (De Geer)
  • วงศ์: Anthribidae
  • อันดับ: Coleoptera

ลักษณะทางสัณฐานวิทยา

  • ขนาดลำตัว: 3.0–5.0 มม.
  • สี: น้ำตาลอมเทา มีลายขนขาว–น้ำตาลเข้ม
  • หนวด: แบบลูกตุ้ม (Capitate) ปลายหนวดโป่งใหญ่
  • ปีกหน้า: แข็ง (Elytra) ปกคลุมลำตัว
  • ปีกหลัง: เป็นเยื่อบางใส (membrane)
  • ขา: แบบขาเดิน ปลายขาทุกคู่มีปล้องสีขาวเด่น
  • ปาก: แบบกัดกิน (chewing type)
  • ไข่: สีขาวเรียวยาว
  • ตัวอ่อน: ทรงกระบอก สีเหลืองน้ำตาล ไม่มีขา

พฤติกรรมและชีววิทยา

  • อาศัยอยู่ตามธรรมชาติบนต้นไม้ ใบไม้ เศษพืชผัก หรือในดินที่มีอินทรียวัตถุ
  • ชอบวางไข่ในแหล่งที่มีความเปรี้ยว กลิ่นหมัก หรือผลแห้ง
  • ไม่ใช่พาหะนำโรค แต่เป็นศัตรูสำคัญในการเก็บรักษาผลผลิต

วงจรชีวิตของด้วงกาแฟ

การพัฒนาแบบสมบูรณ์ (Complete Metamorphosis) ประกอบด้วย 4 ระยะ:

ระยะไข่:
  • วางไข่ได้ ~50 ฟอง/ตัวเมีย
  • ใช้เวลาฟักประมาณ 3–5 วัน (ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและความชื้น)
ระยะตัวอ่อน (Larva):
  • พัฒนาในเมล็ดกาแฟหรือพืชแห้ง
  • เจริญเติบโตเร็วในสภาวะชื้น สูงกว่า 60% RH
ระยะดักแด้ (Pupa):
  • พัฒนาช้าในสภาวะชื้นต่ำ
  • ใช้เวลา 29–57 วัน
ตัวเต็มวัย (Adult):
  • อายุยืน ~17 สัปดาห์
  • วงจรชีวิตทั้งหมดประมาณ 46–66 วัน

แหล่งอาหารและลักษณะการทำลาย

พืชที่ด้วงกาแฟเข้าทำลาย:

  • เมล็ดกาแฟ
  • มันสำปะหลังแห้ง มันเทศ เผือก
  • โกโก้ ขิง โสม กระเทียม
  • เครื่องเทศ แป้งสาลี แป้งมัน ข้าวฟ่าง ฯลฯ

ลักษณะการทำลาย:

  • ตัวหนอนกัดกินภายในเมล็ดหรือหัวแห้ง
  • ทำให้เนื้อในกร่อน คุณภาพลดลง
  • แม้จะทำลายไม่รุนแรง แต่ส่งผลเสียต่อ “คุณภาพ” และ “มูลค่าทางเศรษฐกิจ” โดยเฉพาะในสินค้าราคาสูงอย่างกาแฟ

การแพร่กระจาย

  • มีถิ่นกำเนิดในอินเดีย
  • ปัจจุบันพบในเขตร้อนชื้นและกึ่งร้อนชื้นทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย
  • พบมากในพื้นที่เพาะปลูกที่จัดการหลังเก็บเกี่ยวไม่ดี

วิธีการป้องกันและควบคุม

✅ กำจัดโดยวิธีทาง เขตกรรม:

  • เก็บเกี่ยวเมล็ดกาแฟให้ตรงตามฤดูกาล
  • กำจัดผลกาแฟสุก/แห้งที่ตกค้างบนต้นหรือพื้นดิน
  • ตัดแต่งกิ่งเพื่อให้ทรงพุ่มโปร่ง อากาศถ่ายเท
  • หลีกเลี่ยงการตากผลกาแฟบนพื้นดินหรือบริเวณแปลงปลูก

✅ ควบคุมโดย ชีววิธี:

  • ใช้ เชื้อราบิวเวอร์เรีย บาสเซียน่า (Beauveria bassiana) ฉีดพ่นบนดินหรือพื้นแปลง
  • ใช้พริกบดหรือสารสกัดพืชไล่แมลงโรยใต้ต้นกาแฟ
  • ติด กับดักล่อแมลง ช่วยลดประชากรตัวเต็มวัย

หมายเหตุ: แมลงมักพักตัวในดินช่วงนอกฤดูผลผลิต ก่อนจะออกมาทำลายเมล็ดอีกครั้งในฤดูถัดไป

สรุป

แม้ “ด้วงกาแฟ” (Araecerus fasciculatus) จะไม่ใช่พาหะนำโรค แต่เป็นหนึ่งในแมลงที่สร้างความเสียหายด้านคุณภาพต่อผลิตผลแห้งที่มีมูลค่าสูง เช่น กาแฟ โกโก้ และสมุนไพรแห้ง การควบคุมจึงควรเน้น วิธีผสมผสาน ทั้งทางกายภาพ เขตกรรม และชีววิธี เพื่อรักษาคุณภาพผลผลิตและลดการสูญเสียหลังเก็บเกี่ยว

แบบฟอร์มติดต่อกลับ

Visitors: 524,510