English
Chinese
Japanese

แมลงหวี่ขาวยาสูบ (Silverleaf Whitefly) | รู้จักศัตรูผักตัวจิ๋ว พร้อมวิธีควบคุมแบบยั่งยืน

แมลงหวี่ขาวยาสูบ (Silverleaf Whitefly)

Bemisia tabaci – แมลงตัวจิ๋ว ผู้แพร่ไวรัสในไร่ผัก

แม้จะมีขนาดเล็กเพียงไม่กี่มิลลิเมตร แต่ “แมลงหวี่ขาวยาสูบ” หรือ Silverleaf Whitefly คือหนึ่งในแมลงศัตรูพืชที่สร้างปัญหาใหญ่ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกพืชผัก โดยเฉพาะในเขตร้อนและเขตกึ่งร้อน แมลงชนิดนี้ไม่เพียงแค่ดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืชเท่านั้น แต่ยังเป็นพาหะนำไวรัสที่ร้ายแรง เช่น Tomato Yellow Leaf Curl Virus ที่สร้างความเสียหายอย่างหนักในแปลงมะเขือเทศ

ข้อมูลพื้นฐาน

  • ชื่อสามัญ: Silverleaf Whitefly
  • ชื่อวิทยาศาสตร์: Bemisia tabaci (Gennadius)
  • วงศ์: Aleyrodidae
  • อันดับ: Hemiptera

ลักษณะทางสัณฐานวิทยาและชีววิทยา

  • ขนาดลำตัว: 0.8–1.2 มม.
  • ลำตัว: สีเหลืองอ่อน
  • ปีก: สีขาวประกายแบบ membrane (เยื่อบาง)
  • หนวด: แบบเส้นด้าย (filiform)
  • ปาก: แบบเจาะดูด (piercing-sucking)
  • ขา: ขาเดิน (walking leg)
  • ตา: มีทั้งสีแดงและดำ
  • พฤติกรรม: มักพบรวมกลุ่มกันจำนวนมาก บินกระจายเมื่อถูกรบกวน

วงจรชีวิตของแมลงหวี่ขาวยาสูบ

เจริญเติบโตแบบไม่สมบูรณ์ (incomplete metamorphosis) โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ:

ระยะไข่ (Egg):
  • ใช้เวลา 3–4 วัน
  • รูปร่างยาวรี สีเหลืองอ่อน
  • ยึดติดกับเนื้อเยื่อใบพืช
  • ขนาด 0.1–0.3 มม.
ระยะตัวอ่อน (Nymph):
  • ใช้เวลา 11–18 วัน
  • ลักษณะแบนราบ ติดแนบผิวใบ
  • ลอกคราบ 3 ครั้ง
ระยะตัวเต็มวัย (Adult):
  • มีชีวิตอยู่ได้ 11–12 วัน
  • รวมวงจรชีวิตประมาณ 18–28 วัน
  • สืบพันธุ์ได้แม้ไม่มีการผสมพันธุ์ (Parthenogenesis)

แหล่งอาหารและพฤติกรรมการทำลาย

พืชอาหารที่พบบ่อย:
  • วงศ์มะเขือ (Solanaceae): พริก มะเขือเทศ มะเขือเปราะ ยาสูบ
  • วงศ์มะลิ (Malvaceae): ฝ้าย กระเจี๊ยบเขียว
  • วงศ์ถั่ว (Fabaceae): ถั่วเหลือง
ลักษณะการทำลาย:
  • ดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบพืช ทำให้พืชอ่อนแอ ใบเหลือง
  • เป็นพาหะนำไวรัส เช่น Tomato yellow leaf curl virus (TYLCV)
  • หากระบาดรุนแรง ใบจะม้วน เหลือง ขาดการสังเคราะห์แสง ส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโตและผลผลิต

การแพร่กระจาย

  • พบแพร่กระจายกว้างใน เขตร้อนและกึ่งร้อน ทั่วโลก
  • ระบาดหนักในแหล่งปลูกมะเขือเทศ มันเทศ พริก และฝ้าย

วิธีการป้องกันและควบคุม

✅ 1. ตรวจแปลงสม่ำเสมอ

  • ตัดใบที่พบแมลงหวี่ขาวสะสม เพื่อควบคุมจำนวน

✅ 2. ใช้กับดักกาวเหนียว

  • ดักจับตัวเต็มวัยในระยะแรกของการระบาด
  • เหมาะสำหรับแปลงขนาดเล็กและโรงเรือน

✅ 3. คลุกเมล็ดด้วยสารกำจัดแมลง

  • เช่น คาร์โบซัลแฟน (พอสซ์ 25% ST)

  • อัตรา 40 กรัมต่อเมล็ด 1 กก.

✅ 4. ใช้สารเคมีอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น:

  • อิมิดาคลอพริด (imidacloprid)
  • ฟิโปรนิล (fipronil)
  • อัตรา 40 มล. ต่อน้ำ 20 ลิตร
  • ควรพ่นสลับกลุ่มสารเพื่อลดการดื้อยา

✅ 5. ใช้ชีววิธี

พ่นเชื้อรา บิวเวอเรีย บาเซียน่า (Beauveria bassiana)
ร่วมกับ พาซิโลมัยซิส (Paecilomyces spp.)
  • เพื่อกำจัดทั้งตัวอ่อนและไข่ในคราวเดียว
  • ฉีดพ่นทุก 7 วัน ปลอดภัยต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม

สรุป

แมลงหวี่ขาวยาสูบ (Bemisia tabaci) เป็นแมลงศัตรูพืชขนาดเล็กที่สร้างผลกระทบใหญ่ ทั้งโดยตรงผ่านการดูดกินน้ำเลี้ยง และโดยอ้อมผ่านการแพร่ไวรัส การควบคุมอย่างรอบด้านด้วยทั้งวิธีธรรมชาติ เคมี และชีวภาพ จะช่วยลดความเสียหาย พร้อมยืดอายุของสารกำจัดแมลงในระบบนิเวศเกษตรกรรมได้อย่างยั่งยืน

FAQ : — 3 คำถามยอดฮิต ของ แมลงหวี่ขาวยาสูบ (Bemisia tabaci) ที่คนค้นหาเยอะ

คำถามที่ 1 ใบเหลือง–ใบม้วนในมะเขือเทศ มาจากหวี่ขาวหรือขาดธาตุ? เช็คยังไงเร็ว ๆ

  • หวี่ขาวเป็นพาหะไวรัส (เช่น TYLCV): ใบม้วน “เป็นง่ามขึ้นด้านบน”, แผ่นใบหนา–แข็ง ต้นแคระ ผลติดน้อย แม้ใส่ปุ๋ยก็ไม่ฟื้น
  • ขาดธาตุอาหาร: เหลือง “เป็นแพทเทิร์น” ตามเส้นใบ/ปลายใบ แต่ใบไม่หนา–ไม่ม้วนเป็นง่าม ชะลอการโตเล็กน้อยและ ดีขึ้นหลังปรับปุ๋ย–pH
  • ทดสอบหน้างาน: เขย่าใบล่างยามเช้า ถ้าเห็นเมฆตัวขาวลอยขึ้น + มี “น้ำหวาน/ราดำ” (เขม่าดำ) บนใบ/ผล → เข้าข่ายหวี่ขาว ให้เร่งควบคุมทั้งแมลงและไวรัส

คำถามที่ 2 คุมหวี่ขาวแบบ “ไม่พึ่งสาร” ในโรงเรือน/แปลงเปิด ทำอะไรได้บ้างให้เห็นผลไว?

  • ติดแผ่นกาวสีเหลืองถี่ขึ้น (ระดับใบกลาง–บน) เพื่อดักตัวเต็มวัยช่วงระบาดแรก ๆ และใช้เป็นตัวชี้วัดแนวโน้ม
  • มุ้งกันแมลง 32–40 mesh + ห้องลม (double-door) ลดการบินเข้าพร้อมกันตอนเย็น
  • ตัดใบล่างที่มีตัวอ่อนแนบใบ ใส่ถุงปิดทิ้ง เพื่อตัด “แหล่งเพาะบนใบ” และลดการฟักระลอกต่อไป
  • สุขาภิบาลแปลง: ถอนวัชพืชวงศ์เดียวกัน, เก็บเศษพืชหลังเก็บเกี่ยว, เว้นช่วงพักแปลงสั้น ๆ
  • ชีววิธี: พ่นเชื้อรา Beauveria bassiana ร่วม Paecilomyces ทุก ~7 วัน ช่วงชื้น ช่วยลดตัวอ่อน/ไข่ โดยไม่เสี่ยงตกค้าง

คำถามที่ 3 ใช้สารอะไรถึงเอาอยู่ และ “หมุนเวียน” ยังไงไม่ให้ดื้อยา?

เริ่มที่สารดูดซึม/ไม่ไล่แมลงกับตัวอ่อน–ตัวเต็มวัย:


  • กลุ่มนีโอนิโคตินอยด์: อิมิดาโคลพริด (ราก/พ่นใบ),
  • กลุ่มเฟนนีลไพราโซล: ฟิโพรนิล (พ่นใบ)
แนวทางหมุนเวียน: สลับ กลุ่มออกฤทธิ์ (MOA) ทุก 7–14 วันตามระยะการระบาด (เช่น 4A ⇄ 2B) และ อย่าใช้กลุ่มเดิมเกิน 2 รอบติด
เคล็ดลับประสิทธิภาพ: พ่นช่วงเย็นให้ละอองเข้าด้านใต้ใบ (ที่มีตัวอ่อนเกาะแนบ), ผสานกับดักกาว–ชีววิธี และ ตรวจแปลงทุกสัปดาห์ เติมมาตรการเมื่อเห็นแนวโน้มเพิ่มขึ้น

สรุปสั้น: แยก “ไวรัสจากหวี่ขาว” ออกจาก “ขาดธาตุ” ให้ได้, ยึด ตรวจ–ดัก–ชีววิธี–สารหมุนเวียน เป็นแกน, โฟกัส “ใต้ใบและใบล่าง” ที่เป็นฐานเพาะ—จะลดความเสียหายและยืดอายุสารได้มากที่สุด

แบบฟอร์มติดต่อกลับ

Visitors: 552,933