English
Chinese
Japanese

แมลงเกาะหิน (Acroneuria abnormis): ดัชนีคุณภาพน้ำลำธาร

แมลงเกาะหิน (Acroneuria abnormis) — ดัชนี “น้ำใส–ไหลแรง” ที่บอกสุขภาพลำธารได้ดีกว่าเครื่องมือ

หากคุณเคยเห็นแมลงปีกใสสีน้ำตาลเกาะก้อนหินริมน้ำ ลำธารใสไหลแรง นั่นอาจเป็น แมลงเกาะหิน (Stonefly) กลุ่มแมลงน้ำจืดที่อ่อนไหวต่อมลพิษมาก จนถูกใช้เป็น “ตัวชี้วัดคุณภาพน้ำ” อันดับต้น ๆ ของนักนิเวศวิทยาน้ำจืด

จัดหมวดหมู่ (Taxonomy)

  • ชื่อสามัญ: Stonefly
  • ชื่อวิทยาศาสตร์: Acroneuria abnormis
  • อันดับ: Plecoptera
  • วงศ์: Perlidae

ลักษณะจำแนกภาคสนาม (Field ID)

  • ตัวเต็มวัย: แมลงปีกใส (ปีกแบบ membranous) มีเส้นปีกถี่ละเอียด สีลำตัว น้ำตาลอ่อน–น้ำตาลเข้ม มันวาว อก (thorax) ทรงสี่เหลี่ยมเด่น หนวดแบบ เส้นด้าย (filiform) บินอ่อน ๆ ใกล้ผิวน้ำ มักเกาะพักตามก้อนหินหรือกิ่งไม้เหนือน้ำ
  • ตัวอ่อน (Nymph): อาศัยอยู่ใต้น้ำในลำธารน้ำใส มีร่างแบ่ง หัว–อก–ท้อง ชัดเจน รูปร่างเพรียวยืดหยุ่น ชอบเกาะหินกรวดก้อน (riffle) ที่น้ำไหลแรงและอุดมด้วยออกซิเจน — จุดนี้เองที่ทำให้แมลงเกาะหินเป็น ตัวบอกสุขภาพน้ำตามธรรมชาติ อย่างยอดเยี่ยม

เคล็ดลับนักภาคสนาม: พบตัวอ่อนหินปนกรวดสะอาดจำนวนมาก = สัญญาณ “น้ำดี ออกซิเจนสูง ความสกปรกต่ำ”

วงจรชีวิต (Life Cycle)

การเปลี่ยนแปลงแบบไม่สมบูรณ์: ไข่ → ตัวอ่อน (Nymph) → ตัวเต็มวัย (Adult)

  • วางไข่: ตัวเต็มวัยหนึ่งตัวสามารถวางไข่ได้ สูงสุด ~1,000 ฟอง ไข่ถูกเคลือบ สารเหนียว เพื่อยึดเกาะโขดหินไม่ให้ถูกน้ำพัด
  • ระยะไข่: ~2–3 สัปดาห์
  • ตัวอ่อน: ลอกคราบ 12–36 ครั้ง (ต่างกันตามชนิด) ใช้เวลา ~1–4 ปี ในน้ำ ก่อนขึ้นสู่บกเพื่อเปลี่ยนเป็นตัวเต็มวัย
  • ตัวเต็มวัย: มีอายุสั้นเมื่อเทียบกับตัวอ่อน ทำหน้าที่ผสมพันธุ์–วางไข่ แล้วจบวงจร

ทำไม “แมลงเกาะหิน” จึงเป็นตัวชี้วัดน้ำชั้นเลิศ?

  • อ่อนไหวต่อมลพิษและตะกอน: ต้องการน้ำเย็น ใส ไหลแรง และ ออกซิเจนละลายสูง
  • อยู่นานในสภาพแวดล้อมเดียวกัน: ระยะตัวอ่อนยืดนาน 1–4 ปี จึงสะท้อนคุณภาพน้ำ แบบเฉลี่ยระยะยาว
  • เป็นส่วนหนึ่งของดัชนี EPT: Plecoptera (Stoneflies) ร่วมกับ Ephemeroptera (แมลงชีปะขาว) และ Trichoptera (แมลงหนอนปลอกน้ำ) — เจอมาก = น้ำดี

ที่อยู่อาศัย & บทบาทนิเวศ

  • ถิ่นอาศัย: ลำธารภูเขา–ป่าต้นน้ำ น้ำใส ไหลแรง พื้นท้องน้ำเป็นกรวด–หิน (riffles) ร่มเงาดี
  • บทบาท: ตัวอ่อนกินอินทรียวัตถุ (เศษใบ/ชีวfilm) หรือเป็นผู้ล่าแมลงน้ำขนาดเล็ก ช่วย รีไซเคิลสารอาหาร และเป็นอาหารปลา

วิธีสำรวจภาคสนามแบบย่อ (สำหรับนักเรียน–นักอนุรักษ์)

  1. เลือกช่วงน้ำไหลแรงระดับเข่า–หน้าแข้ง บริเวณกรวดหินสะอาด
  2. ใช้ kick-net หรือถุงตาถี่วางท้ายกระแสน้ำ เขี่ย–ยกหิน 1–3 นาที
  3. รินตัวอย่างลงถาดขาว แยกตัวอ่อนรูปเพรียว เกาะเก่ง เคลื่อนไหวคล่อง
  4. จดบันทึกปริมาณ–ความหลากหลาย ร่วมกับอุณหภูมิ pH DO ความเร็วกระแสน้ำ

แนวทางอนุรักษ์ลำธารให้ “แมลงเกาะหินอยู่ได้”

  • กันตะกอนดิน: ทำฝายชะลอน้ำ/แปลงหญ้าชะลอตะกอนก่อนลงลำธาร
  • กันน้ำเสีย: จัดการน้ำทิ้งชุมชน–เกษตรก่อนปล่อยสู่แหล่งน้ำ
  • รักษาแนวป่าริมน้ำ (riparian buffer): ให้ร่มเงา คุมอุณหภูมิ และเพิ่มเศษใบตามธรรมชาติ
  • เฝ้าระวังระยะยาว: สำรวจ EPT ทุกฤดูกาล เก็บข้อมูลต่อเนื่อง

FAQ 3 คำถามยอดฮิต ของ แมลงเกาะหิน (Acroneuria abnormis)

คำถามที่ 1 แมลงเกาะหิน “กัดคนไหม/อันตรายหรือเปล่า”?

โดยทั่วไป ไม่กัด ไม่ต่อย และไม่ทำอันตรายคน ผู้ใหญ่ของหลายชนิดแทบไม่กินอาหารแล้วด้วยซ้ำ การพบแมลงกลุ่มนี้มักเป็น “สัญญาณน้ำดี” มากกว่าเรื่องน่ากังวลครับ

คำถามที่ 2 ทำไม “เจอแมลงเกาะหิน = น้ำดี” และ EPT คืออะไร?

แมลงเกาะหินต้องการน้ำเย็น ใส ไหลแรง และออกซิเจนละลายสูง จึง ไวต่อมลพิษ การพบมากบ่งชี้ว่าสายน้ำสะอาด
EPT index คือดัชนีที่นับความหลากหลายของ 3 อันดับ: Ephemeroptera (แมลงชีปะขาว) + Plecoptera (แมลงเกาะหิน) + Trichoptera (หนอนปลอกน้ำ) — ค่ายิ่งสูง = น้ำยิ่งดี ใช้ประเมินคุณภาพน้ำได้รวดเร็วและควบคู่ค่ากายภาพ–เคมีอื่น ๆ.

คำถามที่ 3 วงจรชีวิตยาวแค่ไหน และ “เก็บตัวอย่าง” ยังไงแบบภาคสนามย่อ?

ตัวอ่อนอยู่ใต้น้ำยาว 1–3 ปี (แล้วแต่ชนิด/อุณหภูมิ) ก่อนขึ้นบกเป็นตัวเต็มวัยช่วงสั้น ๆ จึงสะท้อนคุณภาพน้ำแบบเฉลี่ยระยะยาวได้ดี
วิธีเก็บตัวอย่าง (kick-net ย่อ): ตั้งตาข่ายเหนือน้ำบริเวณหินกรวดไหลแรง แล้ว “เขี่ย/ถีบ” พื้นท้องน้ำย้อนไหล ~0.5 ม. ต่อจุด เก็บ 4–20 จุดตลอดช่วงลำธาร จากนั้นคัดแยกและนับชนิด

แบบฟอร์มติดต่อกลับ

Visitors: 542,223