English
Chinese
Japanese

ด้วงก้นกระดกสีแดง–ดำ: รู้จัก–ป้องกัน–อยู่ร่วมอย่างปลอดภัย (IPM)

ด้วงก้นกระดกสีแดง–ดำ (Paederus fuscipes) — ผู้ล่าตัวจิ๋ว “มีประโยชน์ในนา” แต่ห้ามบี้บนผิว!

ด้วงก้นกระดกเป็นนักล่าธรรมชาติที่กินเพลี้ย–หนอน–ตัวอ่อนแมลงศัตรูพืช จึงมี ประโยชน์ต่อเกษตร แต่มีข้อควรระวังสำคัญ: ของเหลวในลำตัวมีสารระคายเคือง (พบบ่อยเรียก “พิษก้นกระดก”) หากถูก บด/บี้ บนผิวจะทำให้เกิดผื่นพุพองเส้นยาวคล้ายไฟลวก ดังนั้น “รู้จัก–แยกแยะ–ป้องกัน” คือหัวใจของบทความนี้

จัดหมวดหมู่ (Taxonomy)

  • ชื่อสามัญ: Rove Beetle / ด้วงก้นกระดก
  • ชื่อวิทยาศาสตร์: Paederus fuscipes
  • อันดับ (Order): Coleoptera
  • วงศ์ (Family): Staphylinidae

ลักษณะจำแนกภาคสนาม (Field ID)

ขนาด: ยาวราว 6.5–7.0 มม. ลำตัวยาวเรียว

สีสันเด่น: ส้ม–ดำสลับ

  • หัว–ปีกคู่หน้า (elytra)–ท้องปล้องท้าย สีดำ
  • อก (thorax) และท้องปล้องที่ 1–4 สีส้ม
หนวด: แบบเส้นด้าย (filiform) 11 ปล้อง โคนหนวดส้มอ่อน → ปลายเข้มน้ำตาล
ปาก: แบบกัดกิน (chewing)
พฤติกรรม: วิ่งเร็ว บินได้ระยะสั้น ชอบไฟ/แสงในเวลากลางคืน มักพบบริเวณบ้านใกล้ทุ่ง–แปลงเกษตรหลังฝน

แยกจากแมลงคล้ายกัน

กลุ่มจุดสังเกตหมายเหตุ
ด้วงก้นกระดก (Paederus) ลำตัวยาวเรียว ส้ม–ดำสลับ ปีกแข็งสั้นกว่าท้อง เห็นปล้องท้องโผล่ชัด ห้ามบี้ บนผิว
ด้วงเม่า/มอดคลัง สีน้ำตาลอ่อน ลำตัวตันสั้นกว่า ปีกแข็งคลุมท้องมิด ไม่ทำให้เกิดผื่นแบบก้นกระดก
มารดาพิษ/ด้วงน้ำมัน (blister beetle) ลำตัวยาว ปีกแข็งยาวคลุมท้อง สีสันหลากหลาย สารระคายเคืองคนละชนิด

วงจรชีวิต (Life Cycle)

การเปลี่ยนแปลงแบบสมบูรณ์: ไข่ → ตัวอ่อน → ดักแด้ → ตัวเต็มวัย

  • ไข่: ~3–9 วัน (ตัวเมียวางราว 50–100 ฟอง)
  • ตัวอ่อน: ~4–36 วัน (เป็นนักล่า กินตัวอ่อนแมลงอื่น)
  • ดักแด้: ~3–12 วัน
  • ตัวเต็มวัย: อยู่ได้ 3–5 สัปดาห์
  • รวมวงจร: โดยเฉลี่ย 22–50 วัน (แปรตามอุณหภูมิ–ความชื้น–อาหาร)

บทบาทในเกษตร: “ผู้ช่วยลับ” ของชาวนา–ชาวสวน

  • ล่าเพลี้ย หนอนผีเสื้อกลางคืน ตัวอ่อนแมลงวัน และแมลงขนาดเล็กอื่น ๆ
  • ช่วยลดแรงระบาดในแปลง โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมี เหมาะกับแนวทาง IPM (Integrated Pest Management)

ความเสี่ยงต่อคน: ทำไม “ห้ามบี้” บนผิว

  • ของเหลวภายในลำตัวมีสารระคายเคือง เมื่อ บด/เช็ด/บี้ บนผิวจะเกิดผื่นพุพองเป็นทางยาว (มักขึ้นหลัง–คอ–แขน–ใบหน้า)
  • หลักปฏิบัติฉุกเฉิน: หากเผลอสัมผัส ให้รีบล้างด้วยน้ำและสบู่ทันที หลีกเลี่ยงการถู–เกา ประคบเย็น และหากระคายมากให้พบแพทย์/เภสัชกรเพื่อรับยาทาภายใต้คำแนะนำ

IPM สำหรับบ้าน–โรงเรียน–โรงงาน (ได้ผล ปลอดภัย)

1) ป้องกันก่อนเข้าบ้าน

  • จัดการแสง: เปลี่ยนหลอดภายนอกเป็นโทนอุ่น/เหลือง หลีกเลี่ยงไฟขาวจ้าในหน้าฝน
  • มุ้งลวด/ซีลช่องว่าง: ปิดช่องรั่วประตูหน้าต่าง เปิดไฟล่อ ไว้ไกลตัวอาคาร
  • สนามรอบบ้าน: ตัดหญ้าให้เตียน ลดความชื้น–น้ำขัง

2) จัดการพบในอาคาร

  • ใช้ กระดาษ/แก้วครอบ แล้วปล่อยนอกอาคาร อย่าบี้
  • เช็ดพื้น/โต๊ะด้วยผ้าชุบน้ำสบู่อ่อน ๆ ลดคราบสารตกค้าง
  • ตั้ง พัดลม/ม่านลม ในจุดประตูเข้า–ออกช่วงที่แมลงชุก

3) ภาคเกษตร/โรงงานอาหาร

  • ไฟล่อแมลง ตั้งให้ห่างจุดทำงาน/สายการผลิต
  • Sanitation: เก็บเศษอาหาร/อินทรียวัตถุ ลดเหยื่อดึงดูดแมลงอื่น (ทำให้ Paederus เข้ามาน้อยลง)
  • Training ทีมงาน: วิธีจับ–ปล่อยอย่างปลอดภัย และปฐมพยาบาลเบื้องต้น

SOP “คืนฝน–เปิดไฟ–แมลงชุก” (5 ขั้นเร็ว)

  1. ลดไฟขาวจ้าภายนอก เปลี่ยนเป็นโทนอุ่น/หรี่แสง
  2. เปิดไฟล่อไว้ ไกลตัวอาคาร + พัดลมไล่แมลงบริเวณทางเข้า
  3. เตรียมถุงมือยาง + กระดาษแข็ง/แก้วครอบสำหรับเก็บปล่อย
  4. แจ้งเตือนบุคลากร ห้ามบี้ และหลีกเลี่ยงการปัดแรง ๆ บนผิว
  5. เช้า–ทำความสะอาดพื้นผิวด้วยน้ำสบู่ เพื่อลดความเสี่ยงระคายเคือง

FAQ 3 คำถามยอดฮิต ของ ด้วงก้นกระดกสีแดง–ดำ (Paederus fuscipes)

คำถามที่ 1 “โดนพิษก้นกระดก” ต้องทำยังไงทันที?

อย่าใช้มือบี้/ถู! รีบ ล้างผิวด้วยน้ำและสบู่, ประคบเย็น, แล้วทา สเตียรอยด์เฉพาะที่ บรรเทาอักเสบ; เสื้อผ้าส่วนที่เปื้อนก็ควรซักทันทีเพื่อลดพิษตกค้าง หากรุนแรงให้พบแพทย์.

คำถามที่ 2 ป้องกันในบ้าน–โรงเรียน–โรงงานยังไง “ไม่ให้บินเข้ามา” โดยไม่พึ่งสารพ่นกว้าง?

จัดแสง + กั้นทางเข้า คือหัวใจ: ด้วงก้นกระดกถูกดึงดูดด้วยแสงตอนกลางคืน

  • เปลี่ยนไฟนอกอาคารเป็น โทนอุ่น/เหลือง และลดไฟสว่างจ้าใกล้ทางเข้า; ไม่นั่ง/ทำงาน ใต้โคมไฟโดยตรง ในคืนที่แมลงชุก.
  • ติด มุ้งลวด/ซีลประตู–หน้าต่าง, ตั้ง ม่านลมหรือพัดลม ที่จุดเข้า–ออก; เจอแมลงให้ เขี่ย/เป่าออก แทนการตบ.
  • ใช้ กับดักแสง ล่อไว้ไกลอาคาร ลดการบินเข้าส่วนใช้งาน.

คำถามที่ 3 ในแปลงนา “มีประโยชน์จริงไหม”—เกี่ยวข้องกับ IPM อย่างไร?

จริงครับ ด้วงก้นกระดกเป็น ผู้ล่าทั่วไป (generalist predator) จับเพลี้ย–หนอนหลายชนิดในนาข้าว ช่วยลดการระบาดได้ตามธรรมชาติ จึงเหมาะมากกับ ระบบ IPM (ลดสาร, รักษาศัตรูธรรมชาติ).
ทิป IPM เร็ว: เลี่ยงสารออกฤทธิ์กว้างช่วงต้นฤดู/ช่วงแมลงผู้ล่าชุก และหลีกเลี่ยงการเผาตอซัง–ไฟสว่างจ้ารอบนาในฤดูฝน ซึ่งกระตุ้นการกระจายตัวของ Paederus เข้าสู่ชุมชน.

แบบฟอร์มติดต่อกลับ

Visitors: 541,136