แตนเบียนดำเล็ก Proconura minusa ตัวเบียนวงจรสั้นเพื่อระบบ IPM
แตนเบียนดำเล็ก (Proconura minusa) — ตัวเบียนจิ๋ว “ไว จบ ไร้กลิ่นเคมี” สำหรับระบบ IPM
ตัวเล็กแต่ทรงพลัง! แตนเบียนดำเล็ก คือผู้ช่วยเชิงชีวภาพที่เข้าจัดการแมลงศัตรูพืชบางกลุ่มด้วยความเร็วสูง วงจรสั้น ตั้งตัวเร็ว เหมาะกับการทำ Integrated Pest Management (IPM) เพื่อคุมศัตรูอย่างยั่งยืน ลดการพึ่งพาสารเคมี
จัดหมวดหมู่ทางวิทยาศาสตร์ (Taxonomy)
- ชื่อวิทยาศาสตร์: Proconura minusa (Narendran)
- ชื่อเดิม (Synonym): Euchalcidia caryobori
- วงศ์ (Family): Chalcididae
- อันดับ (Order): Hymenoptera
ลักษณะจำแนกภาคสนาม (Field ID) — ดูอย่างไรให้มั่นใจ
- ขนาดลำตัว: ประมาณ 1.7–2.7 มม.
- สีสัน: ลำตัว สีดำ ปีกใส 2 คู่
- ปีกคู่หน้า: ไม่มีเซลล์ ชัดเจน และ “เส้นขอบปีก” ไม่แตะ ขอบปีกคู่หน้า
- โคนขาหลัง: ใหญ่เด่น ขอบด้านในมี ฟันหวี (comb-like teeth)
- Scutellum: ขอบด้านหลัง โค้งกลม
- ปล้องท้องแรก (first metasomal tergite): ผิว ราบเรียบ ไม่มีหลุม และมี สันนูน 2 เส้น ชี้เข้าหากัน
- หนวด: แบบกึ่งลูกปัด (submoniliform) ตัวเมีย เพรียวเล็กกว่า ตัวผู้
เคล็ดลับภาคสนาม: ส่องด้านข้างเพื่อเห็น “โคนขาหลังใหญ่ + ฟันหวี” และเงี่ยงสันนูน 2 เส้นบนปล้องท้องแรก จะช่วยแยกจากแตนเบียนกลุ่มอื่นได้ดี
วงจรชีวิต (Life Cycle) — สั้น เร็ว ตั้งประชากรง่าย
ระยะ | ระยะเวลาโดยประมาณ | ไฮไลต์เชิงควบคุม |
---|---|---|
ไข่ | 1–2 วัน | ตัวเมียวางไข่ได้สูงสุด ~100 ฟอง |
ตัวอ่อน | 4–5 วัน | พัฒนาภายใน/บนโฮสต์ → ลดการกินของศัตรู |
ดักแด้ | 4–5 วัน | สร้างดักแด้เล็ก ๆ ใกล้ซาก/พื้นผิวพืช |
ตัวเต็มวัย | 6–7 วัน | จับคู่–หาเหยื่อ–วางไข่ต่อเนื่องในสภาพเหมาะสม |
จุดแข็งของ P. minusa: วงจรสั้น → ทัน “ระลอกระบาด” ของศัตรู และ สเกลได้ไว ในแปลง/เรือนปลูก เมื่อจัดการสิ่งแวดล้อมเหมาะสม
บทบาททางนิเวศ & การใช้งานใน IPM
- เป็น ตัวเบียน (parasitoid) ที่มุ่งโจมตีแมลงศัตรูพืชบางกลุ่ม (ขึ้นกับพื้นที่และชนิดพืช)
- จุดเด่นคือ เจาะวางไข่แม่นยำ ทำให้โฮสต์หยุดกิน–อ่อนแรง–ตาย และลดวงจรศัตรูรุ่นถัดไป
- ทำงาน เงียบ ปลอดกลิ่น เหมาะกับผักผลไม้ปลอดภัย เรือนปลูกระบบปิด และพื้นที่ที่ต้องคุมสารตกค้าง
วิธีใช้ให้เห็นผล
สำรวจ (Scout) ให้เจอโฮสต์วัยอ่อน
- เดินตรวจใบ–ใต้ใบ/ยอดอ่อน และโซนที่ศัตรูเพิ่งเริ่มสะสม
ปล่อยช่วงอากาศเย็น (เช้า/เย็น)
- ลดความเครียดจากความร้อน ลมสงบ แตนบินหาเหยื่อได้ดี
กระจายจุดปล่อยหลายตำแหน่ง
- เน้น “ฮอตสปอต” ที่พบโฮสต์สม่ำเสมอ เพื่อปิดช่องว่างการแพร่ระบาด
งดสารกำจัดแมลงออกฤทธิ์กว้าง ก่อน–หลังปล่อย
- อย่างน้อย 3 วัน ช่วยให้อัตรารอด/การจับคู่สูงขึ้น
ติดตามผลรายสัปดาห์
- บันทึกจำนวนศัตรู–ร่องรอยกิน–สัญญาณการเบียน (เช่น ซาก/ดักแด้เล็ก ๆ) เพื่อปรับรอบการปล่อย หากมีฝนหรือลมแรงหลังปล่อย ให้ เสริมปล่อยบางส่วน เมื่อสภาพอากาศนิ่ง
FAQ 3 คำถามยอดฮิต ของ แตนเบียนดำเล็ก (Proconura minusa)
คำถามที่ 1 แตนเบียนดำเล็ก “ต่างจากแตนเบียนทั่วไป” ยังไง—ทำไมถึงเหมาะกับ IPM?
เด่นที่ วงจรชีวิตสั้น–ตั้งประชากรเร็ว และมุ่งโจมตีโฮสต์ได้แม่นยำ จึง “ตัดตอน” การระบาดได้ทันระลอก
จุดแข็งที่ชาวไร่/หัวหน้าโรงเรือนชอบ
- ไว: ไข่→ดักแด้→ตัวเต็มวัย ใช้เวลาสั้น เหมาะช่วงเริ่มพบศัตรู
- กระทบเคมีต่ำ: ไม่มีสารตกค้าง/กลิ่น เหมาะพื้นที่อาหารปลอดภัย–เรือนปลูกระบบปิด
- ช่วยทีมสำรวจ: มีลักษณะเด่น (โคนขาหลังใหญ่มี “ฟันหวี”) ใช้ยืนยันชนิดในภาคสนามได้ง่าย
คำถามที่ 2 ปล่อย “เมื่อไร–อย่างไร” ให้เห็นผลทั้งแปลงเปิดและเรือนปลูก?
ปล่อยเร็วตั้งแต่เริ่มพบโฮสต์วัยอ่อน แล้วทำ ต่อเนื่อง 2–3 รอบ ห่างกัน 7–10 วัน โดยเว้นสารออกฤทธิ์กว้างก่อน–หลังปล่อย
SOP ลงมือทำ
- เวลา: เช้าตรู่/เย็น (อากาศเย็น ลมสงบ)
- กระจายจุดปล่อย: ปักหลายจุดใน “ฮอตสปอต” ที่พบโฮสต์จริง เพื่อตัดช่องว่างการระบาด
- เรือนปลูก: ปล่อย “ด้านใน” ลดการเปิด–ปิดประตูถี่ รักษาอากาศนิ่งพอให้แตนหาเหยื่อ
- หลังฝน/ลมแรง: เสริมปล่อยเฉพาะจุดเมื่อใบแห้ง–อากาศนิ่ง
- ติดตามผล: ทุก 7 วัน ตรวจ “โฮสต์ยังมีชีวิต : สัญญาณการเบียน/ดักแด้เล็ก ๆ” เพื่อปรับรอบถัดไป
คำถามที่ 3 ปลอดภัยไหม—กระทบผึ้ง/แมลงผสมเกสรหรือพืชหรือไม่? ใช้ร่วมกับอะไรได้บ้าง?
ปลอดภัยต่อคน–สัตว์เลี้ยง–พืช และโดยทั่วไป ไม่มุ่งโจมตีแมลงผสมเกสร เพราะหาโฮสต์เฉพาะกลุ่มที่เป็นศัตรูพืช
ใช้ร่วมกันให้แรงขึ้น (IPM Combo)
- Bt/ชีวภัณฑ์จำเพาะ: ใช้แบบ “เฉพาะจุด–เฉพาะเวลา” กับวัยอ่อน เว้นช่วงรอบปล่อยแตนเพื่อไม่รบกวนการทำงาน
- มุ้งกันแมลง/การจัดพืชพรรณ: ลดศัตรูบินเข้า–คงประชากรแตนที่ปล่อยไว้
- การจัดการสุขอนามัย: เก็บใบเสียหายเฉพาะจุด–ลดวัชพืชขอบแปลง เพื่อตัดแรงหนุนศัตรู
- หลักสำคัญ: เลี่ยงสารกำจัดแมลงออกฤทธิ์กว้างในช่วงมี ตัวเต็มวัย แตนเบียนอยู่ในแปลง/เรือนปลูก