English
Chinese
Japanese

แตนเบียนบราคอน Bracon hebetor คุมหนอนแมลงเม่าในโกดัง

แตนเบียนบราคอน (Bracon hebetor Say) — นักล่า “หนอนแมลงเม่าโกดัง” ตัวจิ๋วที่โรงงาน–คลังสินค้าไว้ใจได้

ทางเลือกชีวภาพที่คุมหนอนในอาหารแห้งได้จริง: แตนเบียนบราคอนช่วยลดความเสียหายในโกดัง โรงงานอาหาร โรงสี ร้านค้าปลีก และห้องเก็บวัตถุดิบ โดย “ทำให้หนอนหยุดกิน–ตายเร็ว” และยังเพิ่มประชากรตัวเองต่อเนื่องเมื่อสภาพแวดล้อมเหมาะสม

ทำความรู้จัก (Field ID & Taxonomy)

  • ชื่อสามัญ: Bracon Wasp
  • ชื่อวิทยาศาสตร์: Bracon hebetor (พบบันทึกในเชิงพาณิชย์ว่า Habrobracon hebetor)
  • อันดับ: Hymenoptera
  • วงศ์: Braconidae
  • ขนาดตัวเต็มวัย: ~1.3–2.7 มม. ลำตัวน้ำตาลดำ ปีกใส 2 คู่
  • เพศเมีย: ท้องอวบกว่า มีเหล็กวางไข่ (ovipositor) สีดำยาว ~1 มม. หนวด 13–14 ปล้อง ลักษณะ กึ่งลูกปัด (submoniliform)
  • เพศผู้: หนวดยาวเรียว 20–30 ปล้อง มักผอมกว่าเพศเมีย

จุดสังเกตพฤติกรรม

  • บินหา หนอนผีเสื้อกลุ่มแมลงเม่าโกดัง (เช่น หนอนเม่าอินเดีย–แป้ง–โกโก้) ตามรอยกลิ่นอาหารแห้ง
  • เพศเมียแทงวางไข่ใน/บนตัวหนอน ทำให้หนอนอ่อนแรง หยุดกิน และตายภายในไม่กี่วัน

วงจรชีวิต (Life Cycle) — เร็ว คุมทันระลอกระบาด

ระยะระยะเวลาโดยประมาณไฮไลต์ที่เกี่ยวกับการควบคุม
ไข่ 1–2 วัน วาง 2–8 ฟอง/หนอนเป้าหมาย
ตัวอ่อน 4–5 วัน กินเนื้อเยื่อหนอนจากภายใน หนอนหยุดกินทันที
ดักแด้ 5–7 วัน สร้างรังเล็ก ๆ ใกล้ซากหนอน/บนพื้นผิวสินค้า
ตัวเต็มวัย 23–53 วัน ผสมพันธุ์–หาเหยื่อ–วางไข่ต่อเนื่อง

จังหวะทอง: เมื่อเริ่มพบ “ตัวหนอนวัยอ่อน–กลาง” ในกับดัก/การสุ่มตรวจ ควรเริ่มปล่อยเพื่อ “ตัดตอนวงจร” ก่อนเข้าระยะทำลายหนัก

เป้าหมายที่คุมได้ผล (Target Pests)

  • กลุ่ม แมลงเม่าโกดัง ในวงศ์ Pyralidae: หนอนเม่าอินเดีย (Plodia interpunctella), หนอนเม่าแป้ง/โกโก้ (Ephestia spp.)
  • หนอนผีเสื้อกลางคืนที่รุกรานวัตถุดิบแห้ง/อาหารสัตว์/ธัญพืช/ลูกกวาด ชา กาแฟ เครื่องเทศ ฯลฯ

ใช้อย่างไรให้เวิร์กใน “โรงงาน–คลัง–ร้านค้าปลีก”

SOP ปล่อยแตนเบียน

  1. สำรวจ (Inspect): ตรวจสินค้าร้อนเสี่ยง (ซีเรียล ถั่ว ธัญพืช อาหารสัตว์) + ดู กับดักฟีโรโมน ว่ามีตัวเต็มวัยผีเสื้อมากไหม
  2. เลือกเวลา–สภาพแวดล้อม: ปล่อยช่วง เช้า/เย็น อากาศนิ่ง ไม่ร้อนจัด
  3. กระจายจุดปล่อย: หลายจุดใน ฮอตสปอต เช่น โซนบรรจุ ห้องชั่ง โกดังที่ติดไฟ/ความร้อน ระดับชั้นวางที่พบหนอน
  4. ทำต่อเนื่อง: 2–3 รอบ ห่างกัน 7–10 วัน เพื่อครอบคลุมรุ่นหนอนที่ฟักใหม่
  5. ลดการรบกวน: หลีกเลี่ยงสารกำจัดแมลงออกฤทธิ์กว้าง ภายในโซนปล่อย และจัดการเฉพาะจุดเท่าที่จำเป็น
  6. บันทึกผล: ใช้ แผ่นตรวจหนอน/กับดักฟีโรโมน และบันทึกจำนวนหนอน–ร่องรอยกินสินค้า รายสัปดาห์

จัดการสิ่งแวดล้อม (Sanitation & Exclusion)

  • First-in First-out (FIFO) + ปิดผนึกถุง/ถังให้สนิท ลดแหล่งวางไข่
  • ดูดฝุ่น/กวาดเศษอาหารร่วงตามร่องพื้น–ชั้นวาง
  • ผนึกช่องรั่ว–มุ้งลวดช่องอากาศ ลดการบินเข้าจากภายนอก

FAQ 3 คำถามยอดฮิต ของ แตนเบียนบราคอน (Bracon hebetor

ตำถามที่ 1 ใช้ในโรงงาน/คลังอาหาร “ปลอดภัยไหม” และได้ผลกับหนอนแมลงเม่าโกดังจริงหรือเปล่า?

ปลอดภัยต่อคน–สัตว์เลี้ยงและอาหารเมื่อใช้อย่างถูกวิธี เพราะ B. hebetor เป็นแตนเบียนที่มุ่งทำงานกับ “ตัวหนอนผีเสื้อในสินค้าแห้ง” (เช่น Plodia, Ephestia) โดยตรง จึงนิยมใช้ในโรงสี โรงงาน และคลังสินค้าทั่วโลก ทั้งยังมีงานทบทวนและภาคสนามยืนยันศักยภาพลดประชากรหนอนในระบบหลังการเก็บเกี่ยวได้จริงครับ

คำถามที่ 2 “อัตราปล่อย–ความถี่–ระยะเห็นผล” ควรเท่าไรในสภาพโกดังจริง?

แนวทางที่ใช้ได้จริงคือปล่อย “หลายจุดย่อย” ครอบคลุมฮอตสปอต และทำ ต่อเนื่องเป็นรอบ ๆ ทุก 7–10 วัน ในช่วงที่ยังมีตัวหนอนฟักใหม่
ช่วงอัตราแนะนำจากงานสนาม/เอกสารเทคนิค:

  • ประมาณ 25–50 ตัวเมีย ต่อ 10 ม² ของห้องเก็บ (≈ 2.5–5 ตัวเมีย/ม²) เป็นเกณฑ์ตั้งต้นในสิ่งปลูกสร้าง, แล้วปรับตามระดับการระบาดและโครงสร้างพื้นที่
  • ตัวอย่างภาคสนาม: คลังยาสูบขนาดเล็ก 1,000 ตัว/70 ม² ปล่อย 4 รอบ และคลังอุตสาหกรรม 30,000 ตัว/8,000 ม² ปล่อย 5 รอบ—แนวโน้มตัวผู้ผีเสื้อในกับดักฟีโรโมนลดลงเมื่อมีการปล่อยแตน
  • ระยะเห็นผลเบื้องต้น มักเริ่มภายใน 1–2 สัปดาห์ เมื่อปล่อยต่อเนื่องและทำความสะอาดควบคู่ (หนอนถูกทำให้หยุดกินอย่างรวดเร็ว และแตนสร้างรังดักแด้ใกล้ซากหนอนภายในไม่กี่วัน)

คำถามที่ 3 ใช้ร่วมกับ “กับดักฟีโรโมน/การรบกวนการผสมพันธุ์/การรม” ได้ไหม—จัดสรรยังไงให้เสริมกัน?

ได้ผลดีที่สุดเมื่อ “ผสานเครื่องมือ” แบบ IPM: ให้ กับดักฟีโรโมน/การรบกวนการผสมพันธุ์ จัดการตัวเต็มวัย ส่วน แตนเบียน จัดการตัวหนอน—ตัดวงจรสองชั้น

วิธีจัดสรร

  • วาง กับดักฟีโรโมน เพื่อติดตามแนวโน้มและลดตัวผู้ พร้อมปล่อยแตนเป็นรอบ ๆ ในจุดมีหนอน—เคสโรงงานช็อกโกแลตรายงานว่าการรบกวนการผสมพันธุ์ร่วมกับการปล่อยแตนช่วยดึงประชากรลงต่อเนื่อง
  • ถ้า “เพิ่งรม/พ่นกว้าง” ควร ปล่อยแตนหลังการระบายอากาศและทำความสะอาด แล้ว เพื่อไม่ให้แตนถูกทำลายและมีแหล่งเหยื่อเหลือพอ—งานภาคสนามในคลังผลไม้แห้งชี้ว่าแตนทำงานได้แม้ในช่วงอุณหภูมิต่ำของฤดูหนาว หากมีตัวหนอนให้หา
  • สภาพแวดล้อมที่แตนทำงานดี: โกดังแห้ง สะอาด อุณหภูมิประมาณ 25–30 °C ช่วยเร่งพัฒนาและเพิ่มการวางไข่ของแตน (แต่ยังทำงานได้ในช่วงกว้าง).

แบบฟอร์มติดต่อกลับ

Visitors: 541,136