มวนดูดไข่ Tytthus chinensis คุมไข่เพลี้ย–ไข่หนอนในนา (IPM)
จัดหมวดหมู่ (Taxonomy)
- ชื่อสามัญ: Chinese black mirid / มวนดูดไข่
- ชื่อวิทยาศาสตร์: Tytthus chinensis
- อันดับ (Order): Hemiptera
- วงศ์ (Family): Miridae
ลักษณะจำแนกภาคสนาม (Field ID)
- รูปทรง–สี: ลำตัวรูปไข่ยาว สีน้ำตาลอ่อน หัว–อก สีดำ ด้านบนอกมีลวดลายสีน้ำตาล
- ขนาด: ยาวราว 2.5 มม. คล่องตัวสูง
- ปีก: บางใส (hemelytra/ปีกแบบมวน)
- หนวด: แบบเส้นด้าย (filiform) ยาว 4 ปล้อง
- ปาก: งวง เจาะ–ดูด สำหรับดูดกิน ไข่และตัวอ่อนวัยอ่อน ของแมลงเป้าหมาย
วงจรชีวิต (สั้น เร็ว รับมือระบาดทัน)
- ไข่: ~4–7 วัน
- ตัวอ่อน (nymph): ~14 วัน (เริ่มล่าได้ตั้งแต่วัยอ่อน)
- ตัวเต็มวัย: อยู่ได้ 10–20 วัน
- รวมวงจร: ~2–3 สัปดาห์ (อุณหภูมิอุ่นจัด → พัฒนาไวขึ้น)
ระยะที่ออกฤทธิ์ควบคุมศัตรูพืช: ตัวอ่อน–ตัวเต็มวัย (ทั้งสองวัยดูดกินไข่/ตัวอ่อนวัยอ่อน)
คุมอะไรได้บ้าง?
- ไข่เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล, ไข่เพลี้ยจักจั่น บนใบ/กาบใบข้าว
- ไข่ผีเสื้อกลางคืนบางชนิด (กลุ่มหนอนกัดกินใบในนาและพืชไร่) ผลคือ “ตัดไฟตั้งแต่กองฟาง” ลดจำนวนตัวฟัก ลดความเสี่ยงระบาดระลอกใหญ่
ใช้อย่างไรให้เวิร์กในระบบ IPM
1) ตรวจ–เฝ้าระวังให้ตรงจุด (Monitoring)
- เปิดกาบใบ/ใบข้าวหา กลุ่มไข่ และรอยจุดสีน้ำตาล (ไข่ถูกดูด)
- ใช้สวิงกวาดใบ 10–20 ครั้ง/จุด เพื่อติดตามแนวโน้มศัตรูและผู้ล่า
- บันทึกอัตรา “ไข่ถูกทำลาย/ไข่ทั้งหมด” เพื่อประกอบการตัดสินใจ
2) อนุรักษ์ศัตรูธรรมชาติ (Conservation)
- หลีกเลี่ยงสารออกฤทธิ์กว้าง โดยเฉพาะช่วงพบไข่เป้าหมายจำนวนมาก
- หากจำเป็นต้องพ่น เลือกสาร จำเพาะต่อศัตรูเป้าหมาย พ่น เฉพาะจุด–เฉพาะเวลา และ ไม่พ่นซ้ำกลไกเดิม
- รักษาแนวพืชดอกเล็ก ๆ ริมคันนาเป็น แหล่งอาหารเสริม (น้ำหวาน/ละอองเกสร) ให้ตัวเต็มวัย
3) จัดภูมิทัศน์–ธาตุอาหารพอดี
- บริหาร ไนโตรเจนแต่พอควร ลดความเขียวจัดที่ดึงดูดเพลี้ย
- ระบายน้ำให้เหมาะสม ลดที่หลบซ่อนของเพลี้ย–ไข่บนกาบใบชื้นจัด
4) SOP ลงแปลง (เช็กลิสต์ 6 ข้อ)
- สำรวจไข่เพลี้ย/ใบซีดในจุดเสี่ยงทุกสัปดาห์
- ทำแผนที่ “ฮอตสปอต” เพื่อกระจายการปล่อย/อนุรักษ์ให้ครอบคลุม
- หลีกเลี่ยงการพ่นกว้างเมื่อพบสัญญาณไข่ถูกดูดสูง
- หากต้องเสริมการควบคุม ใช้สารจำเพาะต่อเพลี้ย หลีกโซนที่มีผู้ล่าทำงาน
- รักษาแนวพืชดอกรอบแปลงเป็นแหล่งพลังงานตัวเต็มวัย
- ประเมินผลก่อน–หลัง 7–10 วัน แล้วปรับแผน
FAQ 3 คำถามยอดฮิต ของ มวนดูดไข่ (Tytthus chinensis)
คำถามที่ 1 ต่างจาก “มวนเขียวดูดไข่ (Cyrtorhinus lividipennis)” ยังไง—เลือกตัวไหนให้เหมาะแปลง?
ทั้งคู่เป็น ตัวห้ำดูดกินไข่ ของศัตรูข้าว แต่มี “จุดเด่นคนละแบบ”
- Tytthus chinensis: ลำตัวเล็ก (~2.5 มม.) คล่องตัวสูง ชอบไล่ กลุ่มไข่เพลี้ย/ไข่ผีเสื้อ ตามใบ–กาบใบที่ชื้น และจู่โจม ไข่แน่นๆ เป็นกระจุก ได้ดี
- Cyrtorhinus lividipennis: ตัวใหญ่กว่า สีเขียว สังเกตง่ายในนา เด่นกับ ไข่เพลี้ยกระโดด–จักจั่น และตามล่า ตัวอ่อนเพลี้ยวัยต้น เก่ง
- วิธีเลือก: ถ้าแปลงกำลังเสี่ยงเพลี้ย–มีไข่บนกาบใบกระจาย ใช้/อนุรักษ์ทั้งสองชนิดร่วมกัน จะตัดไฟได้ทั้ง “ระยะไข่” และ “วัยอ่อน” ทำให้กราฟศัตรูนิ่งเร็วกว่าใช้ชนิดเดียว
คำถามที่ 2 ต้อง “ปล่อย” ไหม หรือเน้น “อนุรักษ์” ดี—แล้วปล่อยยังไงให้คุ้ม?
ในหลายพื้นที่ มวนดูดไข่มีตามธรรมชาติอยู่แล้ว จึงควรเริ่มที่ อนุรักษ์ ก่อน (เลี่ยงสารออกฤทธิ์กว้าง ช่วงพบไข่เป้าหมายมาก)
ถ้าต้อง “เสริมปล่อย” (กรณีมีแหล่งพันธุ์)
- จังหวะ: เมื่อพบ กลุ่มไข่เพลี้ย/ผีเสื้อ เพิ่มต่อเนื่อง 2–3 จุดขึ้นไปในแปลง
- เวลา: ปล่อยช่วง เช้า/เย็น อากาศไม่ร้อน ลมไม่แรง
- ตำแหน่ง: กระจายหลายจุด ตรงฮอตสปอต (ใบ–กาบใบที่เห็นไข่ชัด) แทนการปล่อยกองเดียว
- รอบ: ทำ ต่อเนื่องทุก 7–10 วัน ช่วงที่ยังมีไข่สดให้ล่า พร้อม เว้นสารกว้าง ก่อน–หลังปล่อยอย่างน้อย 3–5 วัน
- กรอบทดลองที่ปลอดภัย: เริ่มแบบ “พล็อตย่อย” (เช่น ¼ ไร่) แล้วเทียบกับพล็อตควบคุม 7–10 วัน เพื่อกำหนดอัตราที่เหมาะกับแปลงคุณ (เนื่องจากความหนาแน่นศัตรูและสภาพนาแตกต่างกัน)
คำถามที่ 3 จะรู้ได้ยังไงว่า “กำลังทำงานอยู่” และถ้าจำเป็นต้องพ่น จะไม่ไปทำลายทีมตัวห้ำได้อย่างไร?
วิธีดูสัญญาณภาคสนาม
- จุดสีน้ำตาล/ดำบนไข่ หรือไข่ ยุบ–ฝ่อ = ถูกดูดแล้ว
- ตัวอ่อนเพลี้ยวัยเริ่มฟักลดลง ขณะจำนวนกลุ่มไข่เก่ายังเหลือเปลือกอยู่
- ใช้ “อัตราไข่ถูกทำลาย” แบบง่าย: นับ ไข่ฝ่อ/จุดถูกดูด ÷ ไข่ทั้งหมด × 100 ทุกสัปดาห์
ถ้าต้องพ่นจริง ๆ (ยังเกินระดับเศรษฐกิจ)
- เลือก สารจำเพาะต่อศัตรูเป้าหมาย พ่น เฉพาะจุด–เฉพาะเวลา (โซนที่ยังมีตัวอ่อนหนาแน่น)
- อย่าพ่นทับโซนที่พบสัญญาณไข่ถูกดูดชัด และ สลับกลไกออกฤทธิ์ (MoA) เพื่อไม่กดทีมตัวห้ำ
- เสริมอาหารตัวเต็มวัย ด้วยแนวพืชดอกเล็กริมคันนา (น้ำหวาน/ละอองเกสร) ช่วยให้ ตัวเต็มวัย ของมวนดูดไข่อยู่ยาว–ทำงานต่อเนื่อง