แมลงวันก้นขน (Argyrophylax nigrotibialis) : ตัวเบียนหนอนศัตรูข้าวแบบยั่งยืน (IPM)
จัดหมวดหมู่ (Taxonomy)
- ชื่อวิทยาศาสตร์: Argyrophylax nigrotibialis
- อันดับ: Diptera (แมลงสองปีก)
- วงศ์: Tachinidae (กลุ่มแมลงวันเบียน)
ลักษณะจำแนกภาคสนาม (Field ID)
- ขนาดลำตัว: ~5–6 มม. สีดำอมเทาเงา
- ตารวม: ใหญ่ สีน้ำตาลแดง
- ลำตัว: อกและท้องมีขนสั้น–ยาวปกคลุม ปีกใสบาง (membranous)
- ปลายท้อง: มีขนสีดำยื่นออกมา บริเวณปล้องท้าย “ก้นขน” เป็นที่มาของชื่อสามัญ
- ขา: ทั้ง 3 คู่ สีดำ
- ปาก: แบบดูดเลีย (ของแมลงวัน) ตัวเต็มวัยมักหา น้ำหวาน/น้ำหวานเพลี้ย เป็นพลังงาน
วงจรชีวิต & กลไกการเบียน (สรุปเข้าใจง่าย)
- เพศเมียวางไข่ บนตัว หนอนกระทู้ (มักเป็นหนอนผีเสื้อกลางคืนในข้าว) ไข่มีสี ใส–ครีม
- ตัวอ่อนฟัก และ เจาะเข้าภายในตัวหนอน กินจากด้านในจนเหยื่ออ่อนแรงและตาย
- ตัวอ่อน ออกจากลำตัวเหยื่อ ไปเข้าดักแด้ภายนอก ดักแด้มีสี น้ำตาลแดง
- หนึ่งตัวหนอน อาจพบ ดักแด้แมลงวันก้นขนได้ถึง 3 รัง ในบางกรณี
- ระยะที่ใช้ควบคุมศัตรูพืช: ตัวอ่อน (เป็นตัวเบียนที่ทำลายศัตรูโดยตรง)
ศัตรูเป้าหมายที่คุมได้ผล
- หนอนกระทู้กล้าข้าว
- หนอนกระทู้คอรวง
- หนอนกัดกินใบ ของผีเสื้อกลางคืนหลายชนิดในนาข้าว
ผลลัพธ์หน้างาน: เมื่ออัตราการเบียนสูง ประชากรหนอนลดลงต่อเนื่องและระลอกระบาดถูก “ตัดตอน” โดยไม่ต้องพ่นกว้าง
ใช้อย่างไรให้เวิร์กในระบบ IPM (Integrated Pest Management)
1) สำรวจ–เฝ้าระวังให้เป็น (Monitoring)
- สุ่มตรวจใบ–คอรวง หา รอยกัดกิน + ซากหนอน + ดักแด้สีน้ำตาลแดง
- ใช้กับดักแสง/ฟีโรโมนติดตามตัวเต็มวัยหนอน เพื่อ “จับจังหวะ” ปล่อย/อนุรักษ์ตัวเบียน
2) อนุรักษ์ศัตรูธรรมชาติ (Conservation Biological Control)
- หลีกเลี่ยงสารออกฤทธิ์กว้าง โดยเฉพาะช่วงพบการเบียน
- ถ้าต้องพ่น ให้เลือกสาร จำเพาะต่อหนอน พ่น เฉพาะจุด–เฉพาะเวลา และ ไม่ซ้ำกลไก เพื่อลดผลกระทบตัวเบียน
3) จัดภูมิทัศน์ให้เอื้อต่อ “พลังบิน”
- คง แนวพืชหลากชนิดริมคันนา ที่ให้ดอกเล็ก ๆ ต่อเนื่อง (เป็นแหล่ง น้ำหวาน/ละอองเกสร สำหรับตัวเต็มวัย)
- จัดการน้ำ–ปุ๋ย พอดี ลดความเขียวจัดที่ดึงดูดหนอนมากเกิน
4) SOP ปฏิบัติในแปลง (ย่อ 6 ข้อ)
- ตรวจจุดเสี่ยงทุกสัปดาห์ (ยอดอ่อน–คอรวง)
- ทำแผนที่ ฮอตสปอตหนอน และบันทึก “อัตราการเบียน”
- เมื่อพบดักแด้ก้นขนมาก ชะลอการพ่น เพื่อเปิดทางตัวเบียนทำงาน
- หากต้องพ่น ใช้สารจำเพาะต่อหนอน ไม่กระทบ Tachinidae
- รักษาแนวดอกไม้น้อย–หลากชนิดริมคันนา (อาหารตัวเต็มวัย)
- ประเมินผลก่อน–หลัง 7–10 วัน ปรับแผนตามข้อมูลจริง
ความปลอดภัย & ข้อดีเชิงระบบ
- ปลอดภัยต่อคน/พืชผล เมื่อใช้อย่างเหมาะสม
- ไม่มีสารตกค้าง เหมือนการพ่นกว้าง
- ทำงานร่วมกับผู้ล่าธรรมชาติอื่น ๆ (แมงมุม มวนตัวห้ำ แตนเบียน) ได้ดี
FAQ 3 คำถามยอดฮิต ของ แมลงวันก้นขน (Argyrophylax nigrotibialis)
คำถามที่ 1 “ดูยังไงว่าแมลงวันก้นขนกำลังทำงานอยู่” — มีสัญญาณภาคสนามอะไรบ้าง?
มองหา ดักแด้สีน้ำตาลแดง ใกล้ซากหนอน และ ไข่สีใส–ครีม ที่ติดบนลำตัวหนอนยังมีชีวิต รวมถึงแนวโน้ม “หนอนหยุดกิน–นิ่ง–ซีด”
เช็กลิสต์ตรวจเร็ว (เดินนา 5–10 จุด)
- ใบ/คอรวงที่ถูกกัดกิน → พบซากหนอนใกล้ ดักแด้สีน้ำตาลแดง
- หนอนยังมีชีวิตแต่ นิ่ง/กินช้าลง และเห็น ไข่เล็กๆ บนลำตัว
- บันทึก “อัตราการเบียน” แบบง่าย: - อัตราการเบียน(%) = (จำนวน ดักแด้ + หนอนที่พบ ไข่บนตัว) ÷ หนอนทั้งหมด × 100
- ถ้าเห็นสัญญาณเหล่านี้ กระจายหลายจุด และจำนวนหนอนไม่เพิ่มขึ้น 3–5 วันติดต่อกัน → ชะลอการพ่นเพื่อเปิดทางให้ตัวเบียนทำงาน
คำถามที่ 2 จะ “เพิ่มและคง” แมลงวันก้นขนในแปลงได้อย่างไร โดยไม่พึ่งสารเคมีกว้าง?
อนุรักษ์อาหารตัวเต็มวัย + ลดสิ่งรบกวน = ประชากรตั้งตัวได้เร็วและเสถียร
ลงมือทำทันที
- แนวพืชดอกจิ๋วริมคันนา: ปลูก/คงพืชดอกเล็กบานต่อเนื่อง (เช่น สาบเสือเลื้อย, ดาวกระจาย, งา) ให้ น้ำหวาน/ละอองเกสร สำหรับตัวเต็มวัย
- เลี่ยงสารออกฤทธิ์กว้าง โดยเฉพาะช่วง พบดักแด้/ไข่บนลำตัวหนอน; หากจำเป็นต้องพ่น ให้ใช้ สารจำเพาะต่อหนอน แบบ เฉพาะจุด–เฉพาะเวลา
- บริหารปุ๋ย–น้ำอย่างพอดี: ไม่เร่งไนโตรเจนจน “เขียวจัด” ดึงดูดหนอนระบาดล่วงหน้า
- เฝ้าระวังสม่ำเสมอ: เดินตรวจ–จด “อัตราการเบียน” รายสัปดาห์ เพื่อปรับการตัดสินใจให้ทันรอบระบาด
คำถามที่ 3 ใช้ร่วมกับ Bt/กับดักแสง/ฟีโรโมนยังไงให้เสริมกัน—ไม่ตีกัน?
ให้ ชีวภัณฑ์กับตัวเบียนทำงานคนละชั้น แล้วจูนเวลาให้พอดีกับชีววิทยาของหนอน
สูตร IPM ที่เวิร์ก
- Bt (เฉพาะจุด–วัยอ่อน): ใช้กับแหล่งที่หนอนวัยอ่อนหนา แต่เว้นโซนที่พบการเบียนเด่น เพื่อลดผลกระทบต่อจังหวะของตัวเบียน
- กับดักแสง/ฟีโรโมน: ตั้งเพื่อ ติดตามตัวเต็มวัยหนอน และใช้บอก “จังหวะเฝ้าระวังเข้ม” เมื่อตัวจับได้พุ่ง—ในช่วงเดียวกันให้ ชะลอสารกว้าง เพื่อเปิดทางให้การเบียนเพิ่ม
- หลังใช้เคมีจำเป็น: พ่นเฉพาะจุดแล้ว กลับมาหนุนตัวเบียน ด้วยการคงแนวพืชดอกและเว้นสารกว้างช่วงสั้น ๆ จากนั้นประเมิน ก่อน–หลัง 7–10 วัน ด้วยกราฟหนอน/อัตราการเบียน