แมลงช้างปีกใส (Plesiochrysa ramburi) นักล่าศัตรูพืช—คุมเพลี้ย–ไรด้วยชีววิธี
สรุปสั้น ๆ ที่ควรรู้
- ชื่อวิทยาศาสตร์: Plesiochrysa ramburi (พ้อง: Malada basalis)
- ขนาด/สี: ตัวเต็มวัยสีเขียวอ่อน ยาว ~1–1.8 ซม. ปีกใสเงางาม
- วงจรชีวิต: ไข่ 3–5 วัน → ตัวอ่อน 12–14 วัน → ดักแด้ 7–10 วัน → ตัวเต็มวัยอายุเฉลี่ย ~30 วัน
- ระยะที่ควบคุมแมลงได้ดีที่สุด:ระยะตัวอ่อน (ลำตัวยาว ~0.8–1 ซม., สี น้ำตาลอ่อน)
- เหยื่อเป้าหมาย: เพลี้ยอ่อน ไรแดง แมลงหวี่ขาว เพลี้ยหอย เพลี้ยแป้ง ไข่แมลงหลายชนิด และหนอนขนาดเล็ก
วงจรชีวิตแบบเข้าใจง่าย
- ไข่: สีเขียวอ่อน วางเป็นกลุ่ม “บนปลายก้านไข่” ยกสูงพ้นผิวใบ ลดการถูกล่า
- ตัวอ่อน (นักล่าหลัก): กัด จับ ดูดกินศัตรูพืชทันทีที่พบ เหมาะที่สุดสำหรับการปล่อยควบคุม
- ดักแด้: กลม สีขาวปนเทา มักเกาะตามใบ/กิ่ง
- ตัวเต็มวัย: กินน้ำหวาน–เกสร ช่วยคงอยู่ในแปลงนานขึ้น และเพิ่มโอกาสวางไข่รุ่นถัดไป
ทำไม “แมลงช้างปีกใส” ถึงเวิร์กในแปลงจริง
- ศัตรูพืชหลายชนิด ตัวเดียวเอาอยู่ – ลดการสลับสาร/พ่นถี่
- เข้ากับ IPM ได้ดี – ใช้ร่วมกับกับดักกาว, ตัดแต่ง, พ่นจุด (spot) ช่วยลดสารตกค้าง
- ขยายตัวเองได้ในแปลง – หากมีแหล่งน้ำหวานและที่หลบพัก ตัวเต็มวัยจะอยู่ได้นาน
วิธีใช้ให้ได้ผล (เช็กลิสต์ลงมือทำ)
- เริ่มปล่อยเร็ว เมื่อพบเพลี้ย/ไรระดับเริ่มต้น อย่ารอให้ระบาดหนัก
- กระจายหลายจุด บริเวณใต้ใบ/ยอดอ่อนที่ศัตรูพืชชุก
- ทำซ้ำตามการระบาด ปรับความถี่ตามผลสำรวจ (ปล่อยน้อยแต่บ่อยครั้ง มักคุมได้เสถียรกว่า)
- หลีกเลี่ยงสารที่ทำลายศัตรูธรรมชาติ โดยเฉพาะสารออกฤทธิ์ตกค้างนาน เลือกใช้เฉพาะจุดเมื่อจำเป็น
- จัดแหล่งอมยิ้มให้ตัวเต็มวัย แถบพืชดอกดอกเล็ก (เช่น ผักชีลาว/ยี่หร่า) เพื่อให้อยู่ยาว วางไข่ต่อเนื่อง
- มอนิเตอร์สัปดาห์ละครั้ง ใช้แผ่นกาวสีเหลือง, พลิกดูใต้ใบ, มองหา “ก้านไข่” และซากเพลี้ยที่ถูกกิน
เคล็ดลับภาคสนาม: ถ่ายรูปตำแหน่งปล่อย–แนวระบาด เปรียบเทียบก่อน–หลัง 7–10 วัน จะเห็นแนวโน้มชัดและปรับแผนได้ไว
สัญญาณว่ากำลัง “ทำงาน”
- พบ ก้านไข่ เรียงเป็นแถวบนใบ
- เห็น ซากเพลี้ย/แมลงปากดูด ถูกกัดจนกลวง
- แนวเพลี้ยบนยอดอ่อน เบาบางลง ใบหงิกลดลง
FAQ: 3 คำถามยอดฮิต ของ แมลงช้างปีกใส (Plesiochrysa ramburi / Malada basalis)
คำถามที่ 1 แมลงช้างปีกใสใช้ควบคุมศัตรูพืชชนิดใดได้บ้าง?
ตัวอ่อนของแมลงช้างปีกใสเป็น “นักล่าอเนกประสงค์” ที่จัดการได้ทั้ง เพลี้ยอ่อน ไรแดง เพลี้ยแป้ง เพลี้ยหอย แมลงหวี่ขาว ไข่แมลงศัตรูพืช และหนอนขนาดเล็ก จึงนิยมใช้ในแปลงผัก สวนผลไม้ และโรงเรือน
คำถามที่ 2 ควรปล่อยแมลงช้างปีกใสช่วงไหนถึงได้ผลดีที่สุด?
ควรปล่อย ตั้งแต่ระยะเริ่มพบศัตรูพืช ไม่ใช่รอจนระบาดหนัก การปล่อยกระจายหลายจุดเล็ก ๆ ใต้ใบและยอดอ่อนจะทำให้ตัวอ่อนเจอเหยื่อเร็ว และช่วยคุมประชากรเพลี้ย–ไรได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
คำถามที่ 3 ทำอย่างไรให้แมลงช้างปีกใสอยู่ได้นานในแปลง?
จัดแหล่งเกสร–น้ำหวานจากพืชดอกเล็ก เช่น ผักชีลาว ยี่หร่า ดาวกระจาย พร้อมเลี่ยงการใช้สารเคมีตกค้างนาน ตัวเต็มวัยจะได้มีพลังงานอยู่ต่อ วางไข่ และสร้างรุ่นใหม่ได้เองในพื้นที่ → เป็นการ “ลงทุนครั้งเดียว อยู่ยาวทั้งฤดูกาล”