English
Chinese
Japanese

แมงมุมสุนัขป่า ผู้ล่าศัตรูข้าวในระบบ IPM

แมงมุมสุนัขป่า (Lycosa pseudoannulata = Pardosa pseudoannulata) — “ผู้ล่าศัตรูข้าว” ตัวจริงในระบบ IPM

เห็นแมงมุมตัวคล่อง วิ่งไว ไม่ชักใยบนต้นข้าวหรือคันนา นั่นคือ แมงมุมสุนัขป่า นักล่าธรรมชาติที่ช่วย “ตัดตอน” เพลี้ยและตัวอ่อนผีเสื้อได้ตลอดฤดูกาลปลูก ลดการพึ่งพาสารเคมี และทำให้การจัดการศัตรูพืชยั่งยืนขึ้น

จัดหมวดหมู่ (Taxonomy)

  • ชั้น (Class): Arachnida
  • อันดับ (Order): Araneae
  • วงศ์ (Family): Lycosidae
  • ชื่อวิทยาศาสตร์: Lycosa pseudoannulata (Bösenberg & Strand) (= Pardosa pseudoannulata)
  • ชื่อสามัญ: แมงมุมสุนัขป่า / Rice field wolf spider

ลักษณะจำแนกภาคสนาม (Field ID)

จำนวนขา: 8 ขา (ไม่ใช่แมลง) ลำตัวเพรียว ว่องไว
ขนาด: โดยภาพรวมของกลุ่มแมงมุมสุนัขป่าในนามีตั้งแต่ 6–19 มม.
เพศเมียใหญ่กว่าเพศผู้ พบได้บ่อยตามโคนกอข้าว–ผิวน้ำตื้น

พฤติกรรมเด่น:

  • ไม่ชักใยดักเหยื่อ แต่ ล่าแบบจู่โจม (active hunter)
  • ดวงตาหลายคู่สะท้อนแสงตอนส่องไฟกลางคืน
  • แม่แมงมุมมัก พกถุงไข่ ติดที่ปลายท้อง และปล่อยลูกอ่อนอาศัยบนหลังช่วงสั้น ๆ

วงจรชีวิต & ระยะที่ออกฤทธิ์

  • ไข่ → ตัวอ่อน (spiderling) → วัยรุ่น → ตัวเต็มวัย
  • ระยะที่ใช้ควบคุมศัตรูพืช: ตัวอ่อน–ตัวเต็มวัย (ทั้งสองระยะล่าเหยื่อได้ดี)
  • พบ ได้ตลอดทั้งปี ตั้งแต่เริ่มปลูกจนถึงเก็บเกี่ยว โดยความหนาแน่นสูงขึ้นเมื่อมีเหยื่ออุดมสมบูรณ์

“กินอะไรบ้าง” เป้าหมายในนาข้าว

  • เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล, เพลี้ยจักจั่น
  • ไข่–ตัวอ่อน–ดักแด้–ตัวเต็มวัย ของผีเสื้อกลางคืนหลายชนิด
  • แมลงศัตรูข้าวขนาดเล็กที่อาศัยบนใบ กาบใบ และพื้นนาน้ำตื้น

จุดแข็ง: เป็นผู้ล่าที่ทำงานทั้งกลางวัน–กลางคืน ดักจับได้ตั้งแต่ชั้น ไข่จนถึงตัวเต็มวัย ของศัตรูหลายกลุ่ม

ใช้งานจริงในระบบ IPM (ทำตามได้ในแปลง)

1) อนุรักษ์ผู้ล่าก่อน (Conservation Biological Control)

  • หลีกเลี่ยงสารกำจัดแมลงออกฤทธิ์กว้าง โดยเฉพาะช่วงต้นฤดู
  • ถ้าจำเป็น ให้เลือกสาร เฉพาะเจาะจง พ่น เฉพาะจุด–เฉพาะเวลา

2) จัดภูมิทัศน์เกื้อหนุน (Habitat Management)

  • รักษา คันนา–แนวหญ้าขอบแปลง เป็นที่หลบ (refugia)
  • บริหารน้ำไม่ให้แฉะนานเกินไป เพื่อให้ผู้ล่าเคลื่อนไหวได้ดี
  • บริหาร ไนโตรเจนพอดี ไม่ให้ใบอ่อนมากจนดึงดูดเพลี้ย

3) เฝ้าระวัง–ตัดสินใจ (Monitoring & Decision)

  • สวิงกวาดใบ 10–20 ครั้ง/แปลง ต่อสัปดาห์ เพื่อติดตาม “ผู้ล่า:ศัตรู”
  • ส่องไฟกลางคืนหา แสงสะท้อนตา ประเมินความหนาแน่นผู้ล่า
  • เมื่ออัตรา ผู้ล่า:ศัตรู สูงขึ้น ให้ ชะลอการพ่น เพื่อเปิดโอกาสธรรมชาติทำงาน

SOP ย่อ: ทำอย่างไรให้แมงมุมช่วยเราเต็มที่

  1. สำรวจโฮสต์ (เพลี้ย–หนอน) ตั้งแต่ระยะต้นฤดู
  2. ลดการไถพรวน–เผาตอซังที่ไม่จำเป็น เพื่อรักษาที่หลบ
  3. งดสารกว้างขวาง ก่อน–หลังพบผู้ล่าจำนวนมากอย่างน้อย 3–7 วัน
  4. วางกับดักกาว/แผ่นเหลืองเฉพาะโซน ที่ศัตรูหนาแน่น เพื่อไม่ลดผู้ล่าทั่วทั้งแปลง
  5. บันทึกผลรายสัปดาห์ (ศัตรู/ความเสียหาย/ผู้ล่า) แล้วปรับแผน

ตารางตัดสินใจ (Decision Guide)

สถานการณ์สิ่งที่พบการจัดการ
ต้นฤดู พบแมงมุมสุนัขป่าหลายจุด ศัตรูยังประปราย เว้นสารกว้างขวาง รักษา refugia เฝ้าระวังถี่
เพลี้ยเริ่มเพิ่มเป็นหย่อม ผู้ล่าก็เพิ่มตาม ชะลอการพ่น 3–5 วัน ประเมินอัตรา “ผู้ล่า:ศัตรู”
ระบาดกว้างเกินระดับเศรษฐกิจ ผู้ล่าไม่พอคุม ใช้สารจำเพาะ เฉพาะจุด–เฉพาะเวลา แล้วกลับมาเน้นอนุรักษ์ผู้ล่า
หลังควบคุม ศัตรูลด ผู้ล่าฟื้น บริหารปุ๋ย–น้ำ–refugia ต่อเนื่อง ป้องกันระลอกใหม่

FAQ 3 คำถามยอดฮิต ของ แมงมุมสุนัขป่า (Lycosa/Pardosa pseudoannulata)

คำถามที่ 1 แมงมุมสุนัขป่ากัดคนไหม—อันตรายหรือเปล่า?

โดยทั่วไป ไม่ก้าวร้าวและไม่อันตรายต่อคน กัดก็ต่อเมื่อถูกรบกวนอย่างหนัก อาการมักเล็กน้อยชั่วคราว

ทำยังไงถ้าเผลอไปจับ

  • หลีกเลี่ยงการจับด้วยมือเปล่า; เขี่ยให้หลบหรือปล่อยกลับคันนา
  • หากถูกกัด: ล้างน้ำสบู่ → ประคบเย็น → เฝ้าดูอาการ; หากบวม/ปวดมากผิดปกติค่อยพบแพทย์

เหตุผลที่ควรรักษาไว้

  • เป็น ตัวห้ำเอนกประสงค์ ล่าเพลี้ยและตัวอ่อนผีเสื้อหลายชนิด ช่วยลดการพึ่งพาสารเคมีในแปลงข้าว

คำถามที่ 2 แมงมุมสุนัขป่าช่วย “คุมเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล” ได้จริงไหม—ดูผลยังไงใน 3–5 วัน?

ได้ผลในระบบ IPM เพราะทั้งระยะตัวอ่อนและตัวเต็มวัย ล่าได้ตลอดวัน–คืน ตัดตอนศัตรูตั้งแต่ระยะไข่/ตัวอ่อน

วิธีประเมินผลแบบภาคสนาม

  • สวิงกวาดใบ 10–20 ครั้ง/แปลง: จำนวนเพลี้ยวัยอ่อน ชะลอลง และพบแมงมุมสุนัขป่าอย่างสม่ำเสมอ
  • ส่องกลางคืน: เห็น “แสงสะท้อนตา” บริเวณโคนกอ/ผิวน้ำมากขึ้น = ผู้ล่ากำลังทำงาน
  • อัตราส่วน ผู้ล่า:ศัตรู ดีขึ้นต่อเนื่อง 2 รอบสำรวจ (ทุก 3–5 วัน) = เปิดโอกาสธรรมชาติทำงานต่อ ไม่ต้องรีบพ่น

คำถามที่ 3 อยาก “เพิ่มประชากรผู้ล่า” ในแปลง—ต้องจัดการอะไรบ้างให้เข้าทางแมงมุมสุนัขป่า?

ทำ Conservation Biological Control: รักษาที่หลบ–อาหาร–สภาพแวดล้อม และเลี่ยงสารออกฤทธิ์กว้าง

ลงมือทำทันที

  • เว้นสารกว้างขวาง โดยเฉพาะต้นฤดู; หากจำเป็นให้ใช้สาร จำเพาะ เป้าหมาย และพ่น เฉพาะจุด–เฉพาะเวลา
  • จัดภูมิทัศน์เกื้อหนุน: คงแนวหญ้าคันนา/ฟางบางส่วนเป็น refugia; หลีกเลี่ยงการไถ–เผาตอซังเกินจำเป็น
  • บริหารน้ำ–ปุ๋ยพอดี: ไม่ปล่อยน้ำท่วมแปลงแฉะนานเกินไป เพื่อให้แมงมุมเคลื่อนไหวล่าเหยื่อได้; ไนโตรเจนพอดีลดการดึงดูดเพลี้ย
  • กับดัก/แผ่นกาว ใช้เฉพาะ “โซนระบาด” เพื่อไม่ดักผู้ล่าทั่วแปลง
  • ติดตามผลรายสัปดาห์: บันทึกเพลี้ย/ความเสียหาย/จำนวนผู้ล่า แล้วปรับแผนตามข้อมูลจริง

แบบฟอร์มติดต่อกลับ

Visitors: 541,008