แตนเบียนเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง: Anagyrus lopezi ใช้จริงในระบบ IPM
แตนเบียนเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง (Anagyrus lopezi) — “นักล่า–นักเบียน” คู่ใจไร่มัน สำเร็จด้วย IPM
ตัวเล็กจิ๋วแต่พลังไม่ธรรมดา! แตนเบียนเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง (อะนาจายรัส โลเปสซิ) คือแมลงที่มีประโยชน์สูง ช่วยลดเพลี้ยแป้งสีชมพูในมันสำปะหลังได้ทั้งแบบ “ห้ำ” (ฆ่าและกินทันที) และ “เบียน” (วางไข่ในตัวเพลี้ยให้ตายภายหลัง) เหมาะอย่างยิ่งกับเกษตรปลอดภัยและระบบ IPM ที่ลดการพึ่งพาสารเคมี
ทำความรู้จักอย่างรวดเร็ว (Field ID)
- ชื่อวิทยาศาสตร์: Anagyrus lopezi
- ถิ่นกำเนิด: อาร์เจนตินา, บราซิล, ปารากวัย, โบลิเวีย
- ขนาด: ยาวราว 1.2–1.4 มม. ลำตัวสีดำ ปีกใส 2 คู่
- แยกเพศง่าย ๆ: ตัวเมีย ใหญ่กว่า ตัวผู้ หนวดปล้องแรกของเพศเมียเป็น แผ่นแบนใหญ่ สี ขาวสลับดำ ส่วนตัวผู้หนวดยาวเรียวสีดำ
- ระยะที่ใช้ควบคุมศัตรูพืช: ตัวอ่อน–ตัวเต็มวัย (ทำงานได้ทั้งคู่)
จุดเด่นเชิงพฤติกรรม
- การห้ำ: ตัวเมียแทง–กินเพลี้ยแป้งสีชมพูทันที → ลดประชากร “ด่วน”
- การเบียน: ตัวเมียวางไข่ในเพลี้ย → เพลี้ยกลายเป็นก้อนแข็ง (มัมมี) → ตาย → วงจรเพลี้ยถูกตัดต่อเนื่อง
เป้าหมายหลักที่จัดการได้ผล
- เพลี้ยแป้งสีชมพู บนยอดอ่อน ก้านใบ หลังใบ และช่อดอกมันสำปะหลัง
- กลุ่มเพลี้ยแป้งที่อาศัยอยู่ตามซอกใบ–ข้อปล้องที่ชื้นอับ
การโจมตี “ระยะต้นทาง” (ที่ตัวแม่–ไข่เพลี้ย) ทำให้ประชากรเพลี้ย ไม่ทันปะทุเป็นการระบาดใหญ่
ใช้ให้ได้ผล: IPM ทีละขั้น (ไร่มันทำตามได้จริง)
1) สำรวจ (Scout) ให้รู้จุดกำเนิด
- เดินไร่แบบ “ซิกแซก” สุ่ม 5–10 จุด/แปลง ตรวจยอดอ่อน–ใต้ใบ–ข้อปล้อง
- บันทึก 3 อย่าง: (1) ปริมาณเพลี้ยแป้ง (2) อัตรามัมมี/กลุ่มมัมมี (3) จำนวนแตนเบียนที่เห็น
2) ตัด “แรงหนุนเพลี้ย” ให้ได้ก่อน
- จัดการมด ที่คอยอุ้ม–คุ้มเพลี้ย (ปิดทางอาหาร–วางเหยื่อ/กาวกันมดที่คันแปลง)
- ตัดแต่งส่วนที่เพลี้ยหนา เฉพาะจุด แล้วนำไปทำลาย/หมักอย่างถูกวิธี
- รักษาความโปร่งของทรงพุ่ม ลดความอับชื้นที่เพลี้ยชอบ
3) ปล่อยแตนเบียนให้โดนใจ
- เวลา: เช้าตรู่/เย็นแดดอ่อน ลมสงบ เพื่อให้แตนบิน–หาเหยื่อได้ดี
- วิธี: กระจายปล่อย หลายจุดรอบแปลง เน้นโซนยอดอ่อนที่พบเพลี้ย
- รอบ: ทำ ต่อเนื่อง 2–3 รอบ ห่างกัน 7–10 วัน (ให้ประชากรตั้งหลัก)
- งดสารกว้างขวางรอบการปล่อย: เว้นก่อน–หลังปล่อย เพื่อลดผลกระทบต่อแตนเบียน
4) เคมี “เฉพาะจุด–เฉพาะเวลา” เมื่อจำเป็นจริง
- หากเกินระดับเศรษฐกิจ ให้ใช้สาร ออกฤทธิ์จำเพาะ พ่นเฉพาะจุดเพลี้ยหนา
- หลังพ่น ฟื้นประชากรแตนเบียน ด้วยการปล่อยซ้ำ/ลดการพ่นซ้ำซ้อน
5) ติดตามผลให้เห็นความคุ้ม
- เช็ก สัดส่วนมัมมีต่อเพลี้ยมีชีวิต ทุก 7 วัน → สัดส่วนสูงขึ้น = แตนเบียนทำงานดี
- ถ่ายรูปจุดเดิมเทียบสัปดาห์ก่อน–หลัง ช่วยตัดสินใจรอบถัดไป
เช็กลิสต์เร็วสำหรับหัวหน้าชุดงาน
- แผนที่จุดเพลี้ยหนา–จุดปล่อยแตน
- มาตรการกันมด (เหยื่อ/กาว/ตัดเส้นทาง)
- งดสารกว้างขวางรอบวันปล่อย
- บันทึก เพลี้ย–มัมมี–แตนเบียน รายสัปดาห์
- ประเมินผลผลิต/คุณภาพหัวเทียบต้นทุนควบคุม
FAQ 3 คำถามยอดฮิต ของ แตนเบียนเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง (Anagyrus lopezi)
คำถามที่ 1 แตนเบียนชนิดนี้ “ปลอดภัยไหม” ต่อคน–พืช–ระบบนิเวศในไร่?
ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง ไม่ต่อย ไม่กัด และไม่ทำลายพืช แตนเบียนชนิดนี้มุ่งเป้าเพลี้ยแป้ง (โดยเฉพาะเพลี้ยแป้งสีชมพู) เป็นหลัก จึงช่วยลดการพึ่งพาสารเคมีและเอื้อระบบนิเวศผู้ล่า–ผู้เบียนตามธรรมชาติ
เกร็ดใช้งาน
- ใช้คู่กับการจัดการมด (ตัดเส้นทาง–วางเหยื่อ) เพราะมดคุ้มเพลี้ยแป้ง
- รักษาพื้นที่หลบ (refugia) และพืชดอกเล็กริมแปลง ช่วยยืดอายุตัวเต็มวัยให้ทำงานได้นานขึ้น
คำถามที่ 2 “ปล่อยเมื่อไร–บ่อยแค่ไหน–ปล่อยยังไง” ให้เห็นผลไวและคงที่?
เริ่มปล่อยทันทีเมื่อพบเพลี้ยแป้งระยะแรก ๆ บริเวณยอดอ่อน/ใต้ใบ แล้วปล่อย ต่อเนื่อง 2–3 รอบห่างกัน 7–10 วัน เพื่อให้ประชากรแตนตั้งหลัก
ลงมือทำทันที
- เวลา: เช้าตรู่หรือเย็น ลมสงบ อากาศไม่ร้อนจัด
- จุดปล่อย: กระจายหลายจุดรอบแปลง เน้นโซนพบเพลี้ยจริง
- ก่อน–หลังปล่อย: เว้นสารออกฤทธิ์กว้าง และจัดการมดควบคู่
- หลังรอบที่ 1: ประเมิน 7 วัน—ถ้าเพลี้ยยังหนาในบางหย่อม ให้ตัดแต่งส่วนติดเพลี้ยและปล่อยซ้ำเฉพาะจุด
คำถามที่ 3 “รู้ได้ยังไงว่าแตนทำงานอยู่” และถ้าไม่ดีขึ้นควรปรับอะไร?
ดูสัดส่วน มัมมี (เพลี้ยแป้งแข็งสีน้ำตาล/มีรูทางออก) ต่อเพลี้ยมีชีวิต—ถ้าสัดส่วนมัมมีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 1–2 สัปดาห์ แปลว่าแตนทำงานดี
เช็กลิสต์ประเมินผล
ทุก 7 วัน: ถ่ายรูปจุดเดิม บันทึก “เพลี้ยมีชีวิต : มัมมี : แตนเบียนที่พบ”แนวโน้มดี: มัมมีเพิ่ม–เพลี้ยสดลด ให้คงรอบปล่อย/งดสารกว้าง
ยังไม่ดีขึ้น:
- เข้มการ จัดการมด (เหยื่อ/กาว/ตัดเส้นทางบนคันแปลง)
- ตัดแต่งเฉพาะจุด ที่หนาแน่น เพื่อลดแรงหนุนเพลี้ย
- ใช้สาร เฉพาะจุด–เฉพาะเวลา เท่านั้น แล้วกลับมาเน้นการปล่อยและอนุรักษ์แตนเบียนต่อทันที