แตนเบียนหนอนใยผัก: Cotesia & Diadegma ใช้จริงใน IPM ผักกะหล่ำ
แตนเบียนหนอนใยผัก (Cotesia plutellae, Diadegma semiclausum) — ชีวภัณฑ์ตัวจิ๋วที่ “ตัดตอน” หนอนใยผักได้จริง
ทางออกที่ยั่งยืนสำหรับคะน้า–กะหล่ำ! แตนเบียนหนอนใยผักคือผู้ช่วยสำคัญในระบบ IPM ที่มุ่งลดสารเคมีและคุมการระบาดให้เสถียร ตัวเมียมีเหล็กวางไข่ (ovipositor) เจาะวางไข่ในตัวหนอนใยผัก ตัวอ่อนแตนจะกินจากภายใน ทำให้หนอนตายภายในราว 5 วัน เมื่อปล่อยในช่วงอากาศเย็น (เช้า/เย็น) จะทำงานได้มีประสิทธิภาพสูง
ทำความรู้จักอย่างรวดเร็ว (Field ID)
- ชื่อวิทยาศาสตร์หลักที่ใช้ในแปลง: Cotesia plutellae, Diadegma semiclausum
- ขนาด/ลักษณะ: แมลงขนาดเล็ก ปีกใส เพศเมียมีเหล็กวางไข่ยาว ใช้เจาะตัวหนอน
- พฤติกรรมเด่น: โจมตี หนอนใยผัก (Plutella xylostella) ที่อยู่บนใบ–ใต้ใบพืชตระกูลกะหล่ำ
- ช่วงเวลาเหมาะสมในการปล่อย: เช้า/เย็น อากาศไม่ร้อน ลมไม่แรง
กลไกการออกฤทธิ์ (Mode of Action)
- วางไข่ในตัวหนอน → ตัวอ่อนแตนเบียนฟักและกินจากภายใน
- หนอนอ่อนแรง–หยุดกิน–ตาย ประมาณ ≤ 5 วัน
- ตัวอ่อนแตนพัฒนาเป็นดักแด้/รังดักแด้เล็ก ๆ บริเวณใกล้ซากหนอน/บนผิวใบ
- เพิ่มประชากรแตนเบียนตามธรรมชาติ ต่อเนื่อง (หากไม่มีสิ่งรบกวน)
ระยะที่ควบคุมได้ผลที่สุด: หนอนวัยอ่อน (โดยเฉพาะวัย 1–2) เพราะเปราะบางและเจาะง่าย
ใช้อย่างไรให้เห็นผลในแปลงคะน้า–กะหล่ำ
ปล่อยแตนเบียน
- สำรวจ (Scout): สุ่ม 5–10 จุด/แปลง ตรวจใต้ใบ หา “หนอนวัยอ่อน” และร่องรอยกัดกินเริ่มต้น
- เลือกเวลา: ปล่อยช่วงเช้า/เย็น อากาศเย็น ลมสงบ
- กระจายจุดปล่อย: เดินปล่อยให้ทั่ว คิดเป็น “หลายจุดย่อย” เน้นแนวลม–ขอบแปลง
- ทำต่อเนื่อง: ปล่อย 2–3 รอบ ห่างกัน 7–10 วัน เพื่อประคับประคองประชากรแตน
- หลีกเลี่ยงสารกว้างขวาง: งด/เลี่ยงสารฆ่าแมลงออกฤทธิ์กว้างก่อน–หลังปล่อย อย่างน้อย 3 วัน
- พิจารณาเสริม Bt: เมื่อพบหนอนวัยอ่อนหนาแน่น สามารถสลับใช้ Bt เฉพาะจุด โดยเว้นช่วงไม่ให้กระทบการปล่อยแตน
การจัดการแวดล้อม (Habitat Management)
- เก็บใบเสียหายหนักเฉพาะจุด ลดแรงกดดัน แต่คง “ใบพออาศัย” ให้แตนหาเหยื่อ
- จัดการวัชพืชรอบแปลง ลดพืชอาศัยของหนอน
- แสง–มุ้งกันแมลง: มุ้งตาถี่ช่วยลดการเข้าของตัวเต็มวัยหนอนใยผัก และรักษาแตนที่ปล่อยไว้ในเรือนปลูก
เฝ้าระวังผลลัพธ์ให้ชัดเจน (Monitoring)
- วิธีสุ่ม: ใบ 10–20 ใบ/จุด × 5 จุด/แปลง ตรวจหนอนวัยอ่อน–ใบถูกกัด
- สัญญาณการเบียน: หนอนนิ่ง/ซีด–ทรงลีบ, พบ “รังดักแด้เล็ก ๆ” ใกล้ซากหนอน
- การตัดสินใจ: ถ้าพบแตนเบียนหรือสัญญาณเบียนเพิ่มขึ้นชัด ให้ ชะลอการพ่นเคมี แล้วประเมินซ้ำภายใน 3–5 วัน
ตารางตัดสินใจ (Decision Guide)
สถานการณ์ในแปลง | สิ่งที่พบ | การจัดการแนะนำ |
---|---|---|
เริ่มพบหนอนวัยอ่อนประปราย | รอยกัดเล็ก ๆ ใต้ใบ | ปล่อยแตนรอบที่ 1 (เช้า/เย็น) + เลี่ยงสารกว้างขวาง |
หนอนเพิ่มเป็นหย่อม | เจอหลายจุด แต่ยังไม่ลามทั้งแปลง | ปล่อยแตนรอบที่ 2 หลัง 7–10 วัน + พิจารณา Bt เฉพาะจุด |
หนอนหนาแน่นกว้าง | ใบพรุน, ยอดชะงัก | ใช้ Bt/สารจำเพาะ “เฉพาะจุด–เฉพาะเวลา” แล้วกลับมาปล่อยแตนเพื่อฟื้นสมดุล |
หลังควบคุม | หนอนลด สัญญาณเบียนเพิ่ม | เฝ้าระวังต่อเนื่อง เว้นสารกว้างขวาง รักษาที่อยู่แตน |
เช็กลิสต์ภาคสนาม (หัวหน้าชุดงานควรมี)
- แผนที่จุดระบาด–จุดปล่อย
- ปฏิทินปล่อย 2–3 รอบ + เว้นสารกว้างขวาง
- แบบฟอร์มสุ่มใบ/จำนวนหนอน/สัญญาณเบียน
- แผนสำรอง: Bt เฉพาะจุดในกรณีหนาแน่น
- ภาพก่อน–หลัง เพื่อประเมินผลจริง
FAQ 3 คำถามยอดฮิต ของ แตนเบียนหนอนใยผัก (Cotesia plutellae, Diadegma semiclausum)
คำถามที่ 1 Cotesia กับ Diadegma ต่างกันอย่างไร—เลือกตัวไหนให้เข้ากับแปลงของเรา?
ทั้งสองชนิดเบียน “หนอนใยผักวัยอ่อน” ได้ดี แต่มีนิสัยต่างกันเล็กน้อย จึงเลือกให้เหมาะสภาพแปลง
วิธีเลือกใช้งาน
- อากาศ/ทำเล: แปลงโลว์แลนด์อุ่น–ร้อน ➜ เริ่มที่ Cotesia; แปลงอากาศเย็น/ที่สูงหรือเรือนปลูกควบคุมอุณหภูมิได้ดี ➜ เสริม Diadegma
- รูปแบบการติดตามผล: ตรวจใต้ใบมองหา “รังดักแด้เล็ก ๆ ใกล้ซากหนอน” และแนวโน้มหนอนวัยอ่อนลดลงภายใน 3–5 วัน
- โรงเรือน/มุ้งกันแมลง: ปล่อยแตน “ด้านในเรือน” โดยตรง ลดการเปิดประตูบ่อย และเว้นสารออกฤทธิ์กว้างเพื่อคงประชากรแตน
คำถามที่ 2 ต้องปล่อย “เมื่อไร–กี่ครั้ง–อย่างไร” ให้เห็นผลและคงตัว?
ปล่อยเร็วตั้งแต่เริ่มพบหนอนวัยอ่อน และทำ ต่อเนื่อง 2–3 รอบ ห่างกัน 7–10 วัน ช่วงเช้าตรู่หรือเย็น (อากาศเย็น ลมสงบ)
ลงมือทำ
- กระจายจุดปล่อย ให้ทั่วแปลง โดยเน้นแนวลม–ขอบแปลงและจุดที่เจอหนอนจริง
- เลี่ยงสารกว้างขวาง ก่อน–หลังปล่อยอย่างน้อย 2–3 วัน
- ฝนตกหลังปล่อย: หากฝนหนักภายในไม่กี่ชั่วโมง ให้ “เสริมปล่อยเฉพาะจุด” เมื่อใบแห้ง
- ใช้ร่วมกับ Bt ได้ไหม? ได้—ให้ใช้แบบ “เฉพาะจุด/เฉพาะเวลา” กับหนอนวัยอ่อน และเว้นช่วงรอบการปล่อยแตนเพื่อไม่รบกวนการทำงานของแตน
คำถามที่ 3 จะรู้ได้อย่างไรว่าแตนกำลังทำงานอยู่—ถ้ายังไม่ดีขึ้นควรปรับอะไร?
วิธีประเมินภาคสนาม
- สุ่มตรวจ ใบ 10–20 ใบ/จุด × 5 จุด/แปลง มองหา: หนอนซึม–หยุดกิน, “รังดักแด้เล็ก ๆ” ใต้/บนใบ, และแนวโน้มใบพรุนชะลอลง
- บันทึกทุก 3–5 วัน: นับ “หนอนวัยอ่อน : สัญญาณเบียน/รังดักแด้” เพื่อเห็นทิศทางชัด
ถ้ายังไม่ดีขึ้น ให้เช็ก 3 อย่างนี้ก่อน
- สารเคมี — มีการพ่นกลุ่มออกฤทธิ์กว้างทับรอบปล่อยหรือไม่ → ปรับเป็นเฉพาะจุด/เฉพาะเวลา
- สิ่งแวดล้อม — เรือนปลูกปิดแน่นไปหรือเปล่า, เปิดประตูถี่เกินไป, ความชื้น–อุณหภูมิสูงเกินทำให้แตนทำงานลดลง → ปรับสภาพให้พอดี
- จุดร้อน (hotspot) — หากยังหนาแน่นเฉพาะหย่อม ให้ ปล่อยแตนซ้ำเฉพาะจุด และใช้ Bt เฉพาะจุดประกบ แล้วกลับมาเน้นการอนุรักษ์แตนในภาพรวม