ด้วงเต่า: วิธีปล่อยคุมเพลี้ย–ไร (IPM) สำหรับผัก ไม้ดอก ไม้ผล
รู้จักสายพันธุ์เด่นที่ใช้ควบคุมศัตรูพืช
- ด้วงเต่าลายหยัก (Menochilus sexmaculatus)
- ด้วงเต่าสีส้ม (Micraspis discolor)
- ด้วงเต่าลายขวาง (Coccinella transversalis)
ลักษณะภาพรวม: ลำตัวเล็กทรงกลม/รูปไข่ หลังโค้งนูน ผิวมัน สีสดใส ทั้งแบบมีลายและไม่มีลาย—สังเกตง่ายในแปลง
กินอะไรบ้าง (Target Pests)
- เพลี้ยอ่อน | เพลี้ยแป้ง | เพลี้ยไก่ฟ้า | เพลี้ยหอย
- ไรศัตรูพืช (เช่น ไรแดง)
- ไข่ของแมลงศัตรูพืช หลายชนิด
จุดเด่น: กินเก่งทั้งสองวัย (ตัวอ่อน–ตัวเต็มวัย) จึงเริ่มลดจำนวนศัตรูได้ตั้งแต่วันแรกที่ปล่อย
อัตราปล่อยใช้งาน (ปรับตามระดับการระบาด)
เมื่อสำรวจพบศัตรูพืช “ปริมาณน้อย”
- พืชไร่/พืชผัก/ไม้ดอก: 100 ตัว/ไร่
- ไม้ผล: 100 ตัว/ต้น
เมื่อสำรวจพบศัตรูพืช “ปริมาณมาก”
- พืชไร่/พืชผัก/ไม้ดอก: 2,000 ตัว/ไร่
- ไม้ผล: 2,000 ตัว/ต้น
ทิปภาคสนามให้ได้ผลจริง
- ปล่อยช่วงเช้าตรู่หรือเย็น อากาศไม่ร้อน/ลมไม่แรง
- กระจายหลายจุดรอบทรงพุ่ม/แนวระบาด ไม่เทกระจุก
- หลีกเลี่ยงการพ่นสารออกฤทธิ์กว้าง ก่อน–หลังปล่อยอย่างน้อย 5–7 วัน
- รักษาพื้นที่ให้มี “แหล่งเกาะ–แหล่งหลบฝน/แดด” เพื่อยืดการทำงานของตัวห้ำ
ขั้นตอน IPM 4 สเต็ป (ทำตามนี้เห็นผลเร็ว)
- สำรวจ (Monitoring): สุ่ม 10–20 จุด/แปลง ดูแมลงเป้าหมายต่อใบ/ยอด แล้วเทียบแนวโน้มทุกสัปดาห์
- ปล่อยด้วงเต่า (Biological): ตามอัตราเหนือ และเสริมซ้ำจุดฮอตสปอตหลัง 7–10 วันถ้ายังหนาแน่น
- ดูแลแปลง (Cultural): ตัดแต่งให้โปร่ง ลดมดพาเพลี้ย เพิ่มพืชดอกเล็กริมแปลงเป็น “แหล่งพลังงาน”
- ใช้สารอย่างชาญฉลาด (Selective): จำเพาะต่อศัตรูเป้าหมาย เฉพาะจุด–เฉพาะเวลา เมื่อจำเป็นจริง
เช็กลิสต์ 60 วินาที ก่อน–หลังปล่อย
- ระบุศัตรูและกระจายตัวในแปลงครบแล้ว
- พยากรณ์อากาศ—เลี่ยงฝนหนัก/แดดจัด
- ไม่มีการพ่นสารกว้าง 5–7 วันรอบการปล่อย
- บันทึกจำนวนศัตรูพืช/10 ใบ ก่อน–หลัง 7 วัน เพื่อวัดผล
FAQ — 3 คำถามยอดฮิต ของ ด้วงเต่า (Lady Beetles) สำหรับงาน IPM
คำถามที่ 1 ปล่อยแล้ว “บินหาย/ไม่ยอมอยู่แปลง” ทำยังไงให้ค้างงาน?
- เลือกเวลา: ปล่อยช่วง เช้าตรู่/เย็น อากาศเย็น ลมอ่อน → ลดการบินกระจายทันที
- ปล่อยให้ถูกจุด: เทียบแผนที่ระบาด แล้ว กระจายหลายจุด ใกล้แหล่งเหยื่อจริง (ใบยอดอ่อน/ใต้ใบ)
- เพิ่มที่พัก–พลังงาน: รักษา พืชดอกเล็กริมแปลง (ละอองเกสร/น้ำหวาน) + พุ่มโปร่งมีร่มเงา
- น้ำหมาด ๆ ช่วยได้: พรมละอองน้ำเบา ๆ ที่ทรงพุ่มก่อนปล่อยให้มีความชื้นพอเหมาะ
- คุมมดก่อน: มดคุ้มเพลี้ย = ด้วงเต่าทำงานยาก → ใช้ เหยื่อกำจัดมดแบบจุด ที่คอขวด (ห้ามพ่นกว้างทับจุดปล่อย)
- งดสารกว้าง: เว้นอย่างน้อย 5–7 วัน ก่อน–หลังปล่อย
คำถามที่ 2 ด้วงเต่ากินเพลี้ยแป้ง/เพลี้ยหอยได้ไหม? ถ้าเป้าหมายต่างกันควรเลือก “ตัวห้ำ” อะไร
- เพลี้ยอ่อน/ทริปส์/ไรศัตรูพืช: ด้วงเต่าที่ระบุ (เช่น Menochilus, Micraspis, Coccinella) ทำงานได้ดี
- เพลี้ยแป้งหนาแน่น: ใช้ “สายเฉพาะทาง” อย่าง ด้วงเต่ากินเพลี้ยแป้ง (Cryptolaemus montrouzieri) จะคุมได้เด็ดขาดกว่า
- เพลี้ยหอย/เกล็ด: เล็งกลุ่ม Chilocorus / Rhyzobius หรือผสาน น้ำมันพืช/บีไอโอ แบบเฉพาะจุด
- ไรแดงหนักมาก: พิจารณา ไรตัวห้ำ (Phytoseiulus / Amblyseius) ร่วมด้วยเพื่อเร่งผล
สรุป: เลือก “ตัวห้ำให้ตรงศัตรู” แล้วค่อย เสริมด้วงเต่า เพื่อกดระยะยาวและกันรีบาวด์
คำถามที่ 3 ควรปล่อย “ตัวอ่อน” หรือ “ตัวเต็มวัย”? ปล่อยกี่รอบถึงเห็นผล
- ตัวอ่อน: กินแรง–ไม่ค่อยบินหนี → เหมาะคุม “จุดฮอตสปอต” ให้ยุบเร็ว
- ตัวเต็มวัย: กระจายพื้นที่–หาเหยื่อเก่ง → เหมาะ “คลุมทั้งแปลง” และเริ่มตัดวงจรทันที
- สูตรแนะนำ: เริ่มด้วยอัตราที่ให้ไว้ (เช่น 100 ตัว/ไร่ เมื่อพบศัตรูน้อย หรือ 2,000 ตัว/ไร่ เมื่อหนาแน่น; ไม้ผล 100–2,000 ตัว/ต้น)
- ความถี่: ประเมินผลที่ 7–10 วัน แล้ว เสริมปล่อยรอบ 2 เฉพาะโซนยังหนาแน่น
- ตัวชี้วัดความสำเร็จ: จำนวนศัตรู/10 ใบลดลงต่อเนื่อง ≥ 50% ใน 1–2 สัปดาห์, พบดักแด้/คราบลอกของด้วงเต่า และสัดส่วน ตัวห้ำ:ศัตรู ดีขึ้น
ทริปสุดท้าย: ทุกระบบจะ “นิ่ง” เมื่อ Monitoring ดี + คุมมด + งดสารกว้าง + มีแหล่งพลังงานจากพืชดอกเล็ก ควบคู่กับการปล่อยตามจังหวะศัตรูในแปลงครับ!