English
Chinese
Japanese

จิ้งหรีดหนวดยาว(Metioche vittaticolis) : ตัวห้ำพิทักษ์นาข้าว วิธีอนุรักษ์และใช้จริงใน IPM

จิ้งหรีดหนวดยาว (Metioche vittaticolis) — “ตัวห้ำพิทักษ์นาข้าว” ที่ชาวนาไม่ควรมองข้าม

เจอตัวเล็กสีดำ หนวดยาวมาก เกาะไต่ตามต้นข้าวตั้งแต่ต้นฤดูเพาะปลูก นั่นอาจเป็น จิ้งหรีดหนวดยาว นักล่าศัตรูข้าวตัวจิ๋วที่ช่วยลดไข่หนอนกอและเพลี้ยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับการทำ IPM และเกษตรปลอดภัย

ทำความรู้จักอย่างรวดเร็ว (Field ID)

  • ชื่อวิทยาศาสตร์: Metioche vittaticolis
  • ขนาด: ตัวเต็มวัยยาวประมาณ 6 มม.
  • ลักษณะเด่น: โคนหนวด 2 ปล้องแรกสีดำ หนวดยาวมาก หัว–อก–ท้อง–ปีกสีดำ
  • พฤติกรรม: พบตามต้นข้าวตั้งแต่เริ่มฤดูเพาะปลูก บินได้ ไต่หากินตามลำต้น
  • บทบาทในนาข้าว: ตัวห้ำ (predator) ทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัย

เคล็ดลับการดูภาคสนาม: กลางวันมักหลบตามโคนกอข้าว/ใบล่าง กลางคืนออกหากินและบินลัดแปลง

กินอะไรบ้าง (Target Prey)

จิ้งหรีดหนวดยาวเป็นผู้ล่าคู่ใจชาวนา คอย “ตัดตอน” ศัตรูพืชตั้งแต่ ระยะไข่ และ ตัวอ่อน

  • ไข่ผีเสื้อหนอนกอข้าว, ไข่ผีเสื้อหนอนกอลายแถบ
  • หนอนห่อใบข้าว, หนอนแมลงวันเจาะยอดข้าว
  • ตัวอ่อนเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล, เพลี้ยจักจั่นสีเขียว
  • แมลงศัตรูข้าวอื่น ๆ ที่มีขนาดเล็กหรืออยู่ตามใบ–คอรวง

ระยะที่ใช้ควบคุมศัตรูพืช: ตัวอ่อน–ตัวเต็มวัย (ทั้งสองระยะล่าเหยื่อได้ดี)

จัดการศัตรูอย่างยั่งยืนด้วย IPM (ทำตามได้จริงในแปลง)

1) อนุรักษ์ “ผู้ช่วย” ให้รอดก่อน

  • หลีกเลี่ยงสารกำจัดแมลงออกฤทธิ์กว้างในช่วง ต้นฤดู และช่วงเริ่มวางไข่ของหนอนกอ
  • หากจำเป็นต้องพ่น เลือกสารที่ เฉพาะเจาะจง ต่อศัตรูเป้าหมาย พ่นเฉพาะจุดและช่วงเวลาเหมาะสม

2) สร้างที่อยู่อาศัย (Habitat Management)

  • รักษาความชื้นแปลงให้ ไม่แฉะนานเกินไป หลังพ่นน้ำหรือฝนตก เพื่อให้ตัวห้ำเคลื่อนที่–หาอาหารได้
  • เว้นแนวพืชพรรณขอบแปลงหรือฟางคลุมบางส่วนเป็น ที่หลบ (refugia) ลดการสูญเสียจากแดด/ฝน

3) ลดแรงดึงดูดของศัตรู

  • บริหารไนโตรเจนอย่างพอดี ไม่ให้ใบอ่อนมากเกินจนเกิด เพลี้ยระบาด
  • เก็บซากพืชสะสมเป็นกองและทำปุ๋ยหมักให้เป็นระบบ ลดพื้นที่เพาะศัตรู

4) เฝ้าระวัง–ประเมินผล (Monitoring)

  • ใช้ สวิงกวาดใบ 10–20 ครั้ง/แปลง สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
  • จด อัตราส่วน “ผู้ล่า:ศัตรู” เบื้องต้น เช่น (จิ้งหรีดหนวดยาว + ตัวห้ำอื่น) : (ไข่/ตัวอ่อนศัตรู)
  • เมื่อพบไข่หนอนกอมาก ให้ ชะลอการพ่น เพื่อเปิดโอกาสให้ตัวห้ำจัดการก่อน

ตารางสรุป “เมื่อไรควรเข้มการอนุรักษ์”

ช่วงฤดูข้าวสถานการณ์ในแปลงแนวทางที่แนะนำ
เริ่มแตกกอ พบตัวเต็มวัย/ตัวอ่อนจิ้งหรีดหนวดยาว เว้นสารกว้างขวาง รักษา refugia
เริ่มพบไข่หนอนกอ จุดไข่กระจายเป็นหย่อม เฝ้าระวัง 3–5 วัน เปิดโอกาสตัวห้ำก่อน
ระบาดเฉพาะจุด ใบขาด–คอรวงถูกทำลายเฉพาะพื้นที่เล็ก พ่นเฉพาะจุด–เวลา เสริมตัวห้ำธรรมชาติ
ระบาดกว้าง ศัตรูเกินระดับเศรษฐกิจ ใช้สารเฉพาะเจาะจง แล้วฟื้นประชากรตัวห้ำทันที

เช็กลิสต์ก่อนตัดสินใจพ่น

  • พบไข่หนอนกอหนาแน่น “กว้างจริง” ไม่ใช่เฉพาะจุด
  • อัตรา “ผู้ล่า:ศัตรู” ต่ำอย่างต่อเนื่อง 2–3 ครั้งติดกัน
  • เลือกสารออกฤทธิ์จำเพาะ–พ่นเฉพาะจุด–ช่วงเวลาที่ตัวห้ำกระทบน้อย
  • วางแผน ฟื้นตัวห้ำ หลังพ่น (งดสารกว้างขวาง–คง refugia)

FAQ 3 คำถามยอดฮิต ของ จิ้งหรีดหนวดยาว (Metioche vittaticolis

คำถามที่ 1 จิ้งหรีดหนวดยาวช่วย “กดเพลี้ย/หนอนกอข้าว” ได้จริงไหม—มีเกณฑ์ดูผลเบื้องต้นอย่างไร?

ได้ผลในระบบ IPM เพราะทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยเป็น “ตัวห้ำ” ที่โจมตีระยะไข่–ตัวอ่อนของศัตรูหลักในนาข้าว

เกณฑ์ดูผลแบบภาคสนาม (ไม่ใช่ตัวเลขตายตัว)

  • สวิงกวาดใบ 10–20 ครั้ง/แปลง แล้ว “พบจิ้งหรีดหนวดยาวสม่ำเสมอ” พร้อมกับจำนวนไข่/ตัวอ่อนศัตรูลดลงภายใน 5–7 วัน
  • ตรวจไข่หนอนกอที่ใบ/คอรวง พบ “รอยถูกกิน/เปลือกพรุน” เพิ่มขึ้น
  • แนวโน้มอัตราส่วน “ผู้ล่า : ศัตรู” ดีขึ้นต่อเนื่อง 2 รอบสำรวจ (สัปดาห์ต่อสัปดาห์)

คำถามที่ 2 ควร “สำรวจ–ตัดสินใจพ่น” เมื่อไร ให้เข้าทางตัวห้ำมากที่สุด?

จังหวะทองคือ “ก่อน–ระลอกไข่หนอนกอชุดใหญ่” และช่วงค่ำ–กลางคืนที่จิ้งหรีดหนวดยาวออกหากินมาก

ลงมือทำทันที

  • สำรวจเวลาเหมาะ: พลบค่ำ–กลางคืน ใช้ไฟฉายส่องใบล่างและโคนกอ เช้าให้ตรวจซ้ำที่กอข้าว/ใบอ่อน
  • ชะลอการพ่นระยะสั้น: เมื่อเริ่มพบไข่หนอนกอ “กระจายเป็นหย่อม” ให้เฝ้าระวัง 48–72 ชม. เปิดโอกาสให้ตัวห้ำทำงานก่อน (เว้นสารออกฤทธิ์กว้าง)
  • ตัดสินใจด้วยข้อมูล: หากความเสียหายเกินระดับเศรษฐกิจ ค่อยใช้สาร “เฉพาะจุด–เฉพาะเวลา” แล้วกลับมาเน้นการอนุรักษ์ตัวห้ำทันที

คำถามที่ 3 ต้องใช้สารกำจัดแมลง—เลือก/หลีกเลี่ยงอย่างไรไม่ให้กระทบจิ้งหรีดหนวดยาว?

หลีกเลี่ยงสารออกฤทธิ์กว้าง และเลือกเครื่องมือที่จำเพาะศัตรูเป้าหมาย พร้อมปรับวิธีพ่นให้กระทบตัวห้ำต่ำสุด

แนวทางเลือกใช้อย่างมืออาชีพ

  • ควรหลีกเลี่ยง (โดยเฉพาะช่วงพบตัวห้ำมาก): สารออกฤทธิ์กว้างกลุ่มไพรีทรอยด์, ออร์กาโนฟอสเฟต, คาร์บาเมต
  • ควรพิจารณา เมื่อเป้าหมายคือ “หนอนผีเสื้อระยะอ่อน”: สารชีวภัณฑ์จำเพาะ เช่น Bacillus thuringiensis (Btk) หรือไวรัส NPV ตามฉลาก
  • เทคนิคพ่นให้ปลอดภัยขึ้น: พ่นเฉพาะจุด/ขอบแปลงที่ระบาดหนัก, เว้น “refugia” (แนวฟาง/พืชคลุมบางส่วน) ให้เป็นที่หลบของตัวห้ำ, ปรับเวลาพ่นให้ห่างช่วงที่จิ้งหรีดหนวดยาวออกหากิน
  • หลักสำคัญ: อ่านและทำตามฉลากท้องถิ่นเสมอ และกลับมาสำรวจผลหลังพ่นภายใน 3–5 วัน เพื่อปรับแผนให้สมดุลระหว่างการควบคุมศัตรูและการรักษาประชากรตัวห้ำ

แบบฟอร์มติดต่อกลับ

Visitors: 541,008