English
Chinese
Japanese

เห็บนกพิราบ (Argas reflexus): จุดซ่อน วงจร และวิธีกำจัดในอาคารแบบยั่งยืน

เห็บนกพิราบ (Argas reflexus): รู้ทันจุดซ่อน ไทม์ไลน์การกินเลือด และวิธีกำจัดแบบยั่งยืน

เห็บนกพิราบคือ “เห็บตระกูลตัวนิ่ม (soft tick)” ที่ชอบซ่อนบนฝ้า–หลังคา ใกล้รังนกตอนกลางวัน แล้วออกมากัดตอนกลางคืน นอกจากรบกวนการนอน ยังทำให้คัน ระคายเคือง และเกิดปฏิกิริยาแพ้ได้ หากอาคารคุณมีรังนกพิราบ นี่คือคู่มือที่ควรรู้

 

ระบุตัวให้ชัด (Identification)

ขนาด/ผิว: ยาวราว ~4 มม. ผิวหนังย่นคล้ายหนังสัตว์ ไม่มีเกล็ดแข็ง
ปากกัดดูด: อยู่ด้านท้อง ถูกบังจากมุมมองด้านบน (ลักษณะเฉพาะของเห็บนิ่ม)

วงจรการกินเลือด:

  • ตัวเมียกินเป็นช่วง ๆ น้ำหนักเพิ่มได้ ถึง ~3 เท่า แล้ววางไข่ 20–50 ฟอง/ชุด
  • ตัวอ่อน กินเลือดบนเหยื่อ ~7–11 วัน
  • ตัวกลาง/ตัวเต็มวัย กินต่อครั้ง สูงสุด ~12 ชม.
  • พฤติกรรม: กินเลือดตอนกลางคืน ซ่อนกลางวัน เป้าหมายหลักคือ นกพิราบ (แต่นกชนิดอื่นและ มนุษย์ ก็ถูกกัดได้)

สัญญาณระบาดในอาคาร

  • มี รัง/ขี้นก ตามชายคา ระเบียง ห้องเครื่อง แป้นแอร์
  • ถูกกัด ยามค่ำ/ก่อนรุ่งสาง โดยเฉพาะคนที่นอนห้องติดฝ้าเพดาน
  • พบตัวเห็บเล็ก扁 ๆ สีน้ำตาลเทา ตามขอบบัว รอยแยกฝ้า ห้องใต้หลังคา

ผลกระทบที่พบบ่อย

  • อาการคัน ผื่นนูนแดง แสบร้อนหลังถูกกัด
  • นอนหลับไม่สนิทจากการถูกรบกวน
  • ผู้ที่แพ้ง่ายอาจเกิด ปฏิกิริยาแพ้ผิวหนัง ควรพบแพทย์หากอาการรุนแรง

แผนกำจัดแบบ IPM 5 ขั้น (ยั่งยืน ปลอดภัย)

1) สำรวจ–แมปแหล่งเสี่ยง

  • ตรวจ ฝ้า/โถงใต้หลังคา/ช่องเดินท่อ/ซอกบัว ใช้ไฟฉายส่องแนวรอยแตก
  • ถ่ายภาพจุดพบรังนก–คราบ–ตัวเห็บ เพื่อวางแผนกำจัดเป็นโซน

2) ตัด “ต้นเหตุ” ที่รังนก

  • ถอนรังอย่างถูกวิธี (ควรสวมถุงมือ หน้ากาก แว่นตา) เก็บใส่ถุงปิดผนึกทิ้ง
  • ติดตั้ง bird-proofing: ตาข่ายกันนก, แผงหนาม, ปรับความชันคาน/ป ledge, ปิดช่องเกาะ

3) ทำความสะอาด–ปิดช่องซ่อน

  • ดูดฝุ่น HEPA เศษรัง ขน/ฝุ่นแห้งของนก จากนั้นปิดผนึกถุงขยะ
  • เช็ดทำความสะอาดพื้นผิว ปิด/อุด รอยแตก-ช่องว่าง รอบวงกบ หน้าต่าง ฝ้า

4) คุมเห็บในโถงฝ้า/รอยแตก (เฉพาะจุด)

  • ใช้ สารกำจัดไร/เห็บ (acaricide) หรือ ฝุ่นแห้งทำให้แห้งตาย (ซิลิกาเจล/ไดอะโตไมต์เกรดที่เหมาะ) เฉพาะซอก–รอยแตก–ช่องใต้ฝ้า ตามฉลาก
  • เลี่ยงการ “พ่นลอย ๆ ทั้งห้อง” หรือ ฟ็อกเกอร์แบบหว่าน ที่ทำให้กระจายตัวแต่ไม่เข้าถึงจุดซ่อน

5) เฝ้าระวังซ้ำ 2–3 รอบ

  • ตรวจซ้ำ 7–10 วัน และ 14–21 วัน หลังการบำบัด เติมฝุ่น/พ่นเฉพาะจุดซ้ำตามจำเป็น
  • ติดตามว่ามี นกกลับมาทำรัง หรือไม่—หากใช่ ต้องเสริม bird-proofing

ทิปมืออาชีพ: จัดลำดับทำงานเสมอ — เอารังออก → ปิดทางนก → ทำความสะอาด → คุมเห็บเฉพาะจุด → ตรวจซ้ำ จะได้ผลเร็วและลดการกลับมา

เช็กลิสต์สั้น ๆ

  • เอารังนกออก + ติดตั้งตาข่าย/หนามกันนก
  • ดูดฝุ่น HEPA ทำความสะอาดโถงฝ้า
  • อุดรอยแตก ปิดช่องสื่อสารไปยังห้องพัก
  • ใช้ acaricide/ฝุ่นแห้งใน รอยแตก–โถงฝ้า ตามฉลาก
  • ตรวจซ้ำ 7–10 วัน และ 14–21 วัน

FAQ: 3 คำถามยอดฮิต ของ เห็บนกพิราบ (Argas reflexus)

คำถามที่ 1 เห็บนกพิราบกัดคนอันตรายแค่ไหน?

การถูกกัดอาจทำให้เกิดผื่นคัน ปวดแสบ และนอนไม่หลับในระยะสั้น แต่ในผู้ที่แพ้ง่ายอาจมีอาการรุนแรง เช่น ผื่นบวมใหญ่ หายใจติดขัด หรือปฏิกิริยาแพ้รุนแรง (anaphylaxis) จึงไม่ควรละเลย หากถูกกัดซ้ำบ่อย ๆ ควรจัดการแหล่งรังนกและปรึกษาแพทย์ทันที

คำถามที่ 2 จะรู้ได้อย่างไรว่ามีเห็บนกพิราบในบ้าน?

สัญญาณบ่งชี้คือมีรังนกหรือขี้นกสะสมบนชายคา–ระเบียง, พบเห็บ扁 ๆ สีน้ำตาลเทาตามขอบบัว/รอยแตกฝ้า, และถูกกัดตอนกลางคืนโดยไม่พบยุงหรือแมลงชนิดอื่น ถ้าเจอครบ 2–3 ข้อนี้ มีโอกาสสูงว่ามีเห็บนกพิราบซ่อนในบ้านแล้ว

คำถามที่ 3 วิธีป้องกันเห็บนกพิราบกลับมาอีกครั้งทำได้อย่างไร?

กุญแจสำคัญคือ “จัดการต้นเหตุ + ปิดช่องทาง” ได้แก่ เอารังนกออกอย่างปลอดภัย, ติดตั้งตาข่ายหรือหนามกันนก, อุดรอยแตกและช่องใต้ฝ้า, ทำความสะอาดด้วยเครื่องดูดฝุ่น HEPA และใช้สารกำจัดเห็บเฉพาะจุด หากเสริมการตรวจซ้ำทุก 7–14 วัน จะช่วยป้องกันไม่ให้เห็บกลับมารบกวนได้อย่างยั่งยืน

แบบฟอร์มติดต่อกลับ

Visitors: 541,008