English
Chinese
Japanese

เห็บสุนัขสีน้ำตาล (Rhipicephalus sanguineus): ระบุ–กำจัด–ป้องกันครบ ใน 28 วัน

เห็บสุนัขสีน้ำตาล (Rhipicephalus sanguineus) คู่มือระบุ–กำจัด–ป้องกัน แบบมืออาชีพ

เห็บสุนัขสีน้ำตาลคือพาหะก่อโรคสำคัญของสุนัขในไทยและเขตร้อนทั่วโลก เจอตามตัวน้องหมา บ้านสุนัข ไปจนถึงซอกมุมในบ้าน บทความนี้สรุปให้ครบ: ระบุตัว วงจรชีวิต ความเสี่ยง วิธีดึงเห็บอย่างปลอดภัย แผนกำจัดแบบ IPM และเช็กลิสต์ป้องกันยั่งยืน

ระบุตัวให้ชัด (Identification)

  • สี–ทรง: น้ำตาลแดง ทรงรีค่อนข้างยาว
  • ตำแหน่งที่ชอบเกาะ: ศีรษะ คอ ใบหู ซอกนิ้ว ขาหนีบ รักแร้ ท้อง—จุดที่ทำความสะอาดยาก
  • เจอที่ไหนบ้าง: บนตัวสุนัข บ้านสุนัข ซอกพื้น–ผนัง รอยแตก ใต้พรม ในสภาพอากาศอุ่นพบได้ทั้งปี

วงจรชีวิต 3 เจ้าบ้าน (Three-host tick)

เห็บต้อง กินเลือด 3 ครั้ง เพื่อโตครบวงจร—ครั้งละหนึ่งระยะ: ตัวอ่อน → นิมฟ์ → ตัวเต็มวัย
ในพื้นที่อบอุ่นอาจมี หลายรุ่น/ปี จึงกลับมาระบาดได้หากกำจัดไม่ครบ “ทั้งตัวสัตว์และสิ่งแวดล้อม”

ความเสี่ยงที่ต้องรู้

  • สุนัขเสี่ยงโรคจากเห็บ เช่น Ehrlichiosis, Babesiosis, Anaplasmosis (ควรพบสัตวแพทย์เมื่อมีไข้ ซึม เบื่ออาหาร ซีด เดินโซเซ)
  • คน ถูกกัดได้บ้างแต่พบไม่บ่อย ควรป้องกันเมื่อจัดการเห็บ

วิธีดึงเห็บออกอย่างปลอดภัย (ทำทันทีที่พบ)

  1. ใส่ถุงมือ ใช้แหนบปลายแหลม หนีบชิดผิวหนังที่สุด
  2. ดึงขึ้นตรง ๆ ช้า–มั่นคง ห้ามบิด/บี้ตัวเห็บ
  3. ทำความสะอาดแผลด้วยสบู่และน้ำ/แอลกอฮอล์ 70%
  4. เก็บเห็บใส่ถุง/ขวดปิดสนิท ทิ้งให้ปลอดภัย

หลีกเลี่ยงวิธีผิด ๆ เช่น ทาวาสลีน จุดไฟ หยอดน้ำมัน—เสี่ยงให้เห็บคายสิ่งคัดหลั่งเข้าบาดแผลมากขึ้น

แผนกำจัดแบบ IPM (Integrated Pest Management)

A) คุมบนตัวสุนัข (Core)

  • ปรึกษาสัตวแพทย์เลือก ผลิตภัณฑ์กำจัดเห็บ ที่เหมาะกับน้องหมา: แบบกิน (isoxazolines) แบบหยอดหลังคอ (fipronil/selamectin ฯลฯ) หรือปลอกคอกำจัดเห็บ
  • อาบน้ำสุนัขด้วยแชมพูเฉพาะทางตามคำแนะนำ (ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์สุนัขกับ แมว โดยไม่ปรึกษาแพทย์)

B) คุมสิ่งแวดล้อมในบ้าน

  • ซักร้อน ≥60°C: ผ้าปู เบาะ หมอน ผ้า/ที่นอนสัตว์เลี้ยง แล้วอบให้แห้งร้อน
  • ดูดฝุ่น HEPA: พรม ซอกพื้น ใต้เฟอร์นิเจอร์ รอยแตก—ทิ้งถุง/ล้างถังทันที
  • จุดเสี่ยง (ซอกบัว รอยร้าว ใต้บัวพื้น) ใช้ อะคาริไซด์เฉพาะจุด ตามฉลาก (เช่น กลุ่มไพรีทรอยด์สำหรับสภาพแวดล้อม) หลีกเลี่ยงการพ่นฟุ้งทั่วห้องโดยไม่จำเป็น

C) คุมภายนอกบ้าน/คอก

  • ตัดหญ้า เก็บเศษใบไม้ ลดที่หลบซ่อน
  • ทำความสะอาด บ้านสุนัข–พื้นคอก สม่ำเสมอ
  • พ่นฉีดเฉพาะจุดพักอาศัยเห็บ (มุมร่มชื้น ใต้ชานบ้าน) ตามฉลากความปลอดภัย

D) ไทม์ไลน์ทำซ้ำ (เพราะมี “รุ่นใหม่” โผล่มา)

  • วัน 0: รักษาสุนัข + ซักร้อน + ดูดฝุ่น + พ่นจุดซ่อน
  • วัน 14: ทำซ้ำรอบใหญ่ (ตัดวงจรนิมฟ์/ตัวเต็มวัยชุดใหม่)
  • วัน 28: ประเมินผล–บูสต์เฉพาะจุด หากยังพบ

เช็กลิสต์เร็ว (Save & Use)

  • ตรวจตัวสุนัขทุกวัน โดยเฉพาะหลังพาออกนอกบ้าน
  • หยอด/กินยาป้องกันเห็บ ตามกำหนด
  • ซัก–อบร้อนที่นอนสัตว์สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
  • ดูดฝุ่น HEPA พรม–ซอกบัว 2–3 ครั้ง/สัปดาห์ช่วงระบาด
  • ปิดรอยแตก–รอยร้าว จุดซ่อนในบ้าน
  • ดูแลสนาม–คอกให้โปร่ง สะอาด แห้ง

FAQ: 3 คำถามยอดฮิต ของ หมัดคน (Pulex irritans)

คำถามที่ 1 หมัดคนกัดต่างจากยุงหรือไรอย่างไร?

หมัดคนมักกัดเป็น ชุด 2–3 จุดเรียงกัน โดยเฉพาะแถวข้อเท้า–น่อง อาการคันแสบอยู่นานหลายวัน ต่างจากยุงที่กัดกระจายและหายเร็วกว่า ส่วนไรฝุ่นก่ออาการภูมิแพ้ทางเดินหายใจมากกว่าผื่นคันที่ผิว

คำถามที่ 2 หมัดคนอยู่ได้กี่วันถ้าไม่มีเจ้าบ้านให้กัด?

หมัดตัวเต็มวัยสามารถ อยู่ได้หลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน แม้ไม่มีเลือด แต่จะซ่อนตัวอยู่ในพรม ซอกพื้น หรือรังเก่า ๆ และรอจังหวะ “กระตุ้น” จากความร้อน–การสั่นสะเทือน–CO₂ ก่อนออกมากัดอีกครั้ง

คำถามที่ 3 ทำไมกำจัดหมัดคนแล้วมักกลับมาใหม่?

เพราะ ระยะดักแด้ของหมัด ทนทานมาก สามารถพักอยู่ได้นานนับเดือน แม้ทำความสะอาดไปแล้วก็ยังฟักออกมาได้ภายหลัง ดังนั้นการกำจัดที่ได้ผลจริงต้อง ทำเป็นรอบ (7–10 วัน และ 21–30 วัน) พร้อมจัดการทั้งตัวเต็มวัย–ไข่–ตัวอ่อน และลดสัตว์พาหะควบคู่

แบบฟอร์มติดต่อกลับ

Visitors: 540,997